คลินิกรักษาสิว โดยแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ
ฉายแสงรักษาสิว คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ปลอดภัยและได้ผลจริงไหม?

ปัจจุบัน “ฉายแสงรักษาสิว” กำลังเป็นที่นิยมในวงการแพทย์ผิวหนัง เนื่องจากสามารถช่วยลดการอักเสบของสิว ควบคุมการทำงานของต่อมไขมัน และกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในบทความนี้ หมอตาลจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับการฉายแสงรักษาสิวให้มากขึ้น รวมถึงข้อดี ข้อจำกัด และแนวทางการดูแลผิวหลังทำ เพื่อช่วยให้คนไข้ตัดสินใจเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองได้
การฉายแสงรักษาสิว คืออะไร

การฉายแสงรักษาสิว คือนวัตกรรมที่ใช้แสงสีน้ำเงินและแสงสีแดงปล่อยพลังงานลงไปยังชั้นผิว เพื่อลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว แสงสีน้ำเงินจะช่วยกำจัด Propionibacterium acnes ซึ่งเป็นแบคทีเรียหลักที่ทำให้เกิดสิว ส่วนแสงสีแดงจะช่วยลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
การฉายแสงรักษาสิวเปรียบเสมือนการทำทรีตเมนต์บำรุงผิวชนิดหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นกระบวนการทางการแพทย์ แต่คนไข้จะสัมผัสได้ถึงความสบายและผ่อนคลายขณะทำ ไม่เจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
หลักการทำงานของ การฉายแสงรักษาสิว

การฉายแสงรักษาสิวเป็นนวัตกรรมที่ใช้ แสงสีน้ำเงินและแสงสีแดง ในการปล่อยพลังงานลงไปยังชั้นผิวเพื่อลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และกระตุ้นการฟื้นฟูผิว
- แสงสีน้ำเงิน (Omnilux Blue; 415 nm)
มีประสิทธิภาพสูงสุดในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P. acnes ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสิวอักเสบและสิวเรื้อรัง ช่วยกำจัดแบคทีเรียทั้งชนิดปกติและชนิดที่ดื้อยา ทำให้ลดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยควบคุมความมันบนผิว ลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดสิว
- แสงสีแดง (Omnilux Revive2; 633 nm)
เป็นนวัตกรรมแสงบำบัดที่ช่วย กระตุ้นการสร้างและซ่อมแซมผิวหนัง (skin rejuvenation) ลดการอักเสบของต่อมไขมันใต้ชั้นผิว และช่วยปรับสมดุลของผิว เพิ่มการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดอาการผิวอักเสบ รอยแดงจากสิว และช่วยให้การรักษาสิวเห็นผลดีขึ้น
ฉายแสงรักษาสิว ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

- ลดการอักเสบของสิว: แสงสีน้ำเงินสามารถฆ่าเชื้อ P. acnes ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวอักเสบและสิวเรื้อรัง ทำให้สิวยุบตัวเร็วและลดการเกิดสิวใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ
- สิวแห้งลงเร็ว: แสงสีน้ำเงินช่วยให้สิวแห้งเร็วขึ้น เนื่องจากการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดการอักเสบ
- ลดรอยแดงและรอยดำจากสิว: แสงสีแดงช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและการสร้างคอลลาเจน ทำให้รอยแดง รอยดำจากสิวจางลงเร็วขึ้นและผิวเรียบเนียน เจาะลึกสาเหตุเกิดรอยสิว รอยสิวเกิดจากอะไร
- ควบคุมความมันบนผิว: แสงช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันและลดการผลิตน้ำมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
- ผิวหน้ากระจ่างใสและกระชับขึ้น: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวดูแข็งแรงขึ้น กระชับ และกระจ่างใส
ฉายแสงรักษาสิว ปลอดภัยจริงไหม?
การฉายแสงรักษาสิวถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย เมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญและใช้เทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองจากมาตรฐานสากล (FDA) แสงที่ใช้ในการรักษามีความปลอดภัยสำหรับผิวและไม่ก่อให้เกิดอันตราย โดยเฉพาะแสงสีน้ำเงิน ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว นอกจากนี้ แสงสีแดงยังขึ้นชื่อว่าเป็นแสงที่มีความปลอดภัยสูงและอันตรายน้อยต่อผิว
ใครที่เหมาะกับการทำ ฉายแสงรักษาสิว

- ผู้ที่มีสิวอักเสบ หรือ สิวเรื้อรัง ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาทั่วไป
- ผู้ที่ต้องการลดการอักเสบ และรอยแดงจากสิว
- ผู้ที่มีปัญหาผิวมัน ต้องการควบคุมความมันบนใบหน้า
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ใครที่ไม่ควรทำ ฉายแสงรักษาสิว

- ผู้ที่มีโรคผิวหนังที่ไวต่อแสง หรือ ภาวะแพ้แสง
- ผู้ที่มีแผลเปิด หรือ ผิวหนังบาดเจ็บ บริเวณที่ต้องการทำการรักษา
- ผู้ที่มีโรคมะเร็งผิวหนัง หรือ โรคเกี่ยวกับการใช้แสง
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือ ให้นมบุตร (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ)
ขั้นตอน ฉายแสงรักษาสิว
- ทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อเตรียมผิวให้พร้อมรับการฉายแสง
- ปกป้องดวงตา โดยการสวมแว่นกันแสงเพื่อความปลอดภัย
- ฉายแสงลงบนผิว โดยใช้เครื่องมือที่ปล่อยแสงในช่วงคลื่นที่เหมาะสม ใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- บำรุงผิวหลังทำ โดยการใช้มอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวที่บอบบาง
วิธีการดูแลผิว หลังทำฉายแสงรักษาสิว
- หลีกเลี่ยงแสงแดดเลี่ยงการออกแดดโดยตรงเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เนื่องจากผิวอาจมีความไวต่อแสงมากขึ้น
- ทาครีมบำรุง หลังทำการรักษาควรทาครีมบำรุงที่เหมาะสมกับสภาพผิว เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเติมความชุ่มชื้น และลดอาการแห้งกร้านจากการฉายแสง
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า ควรงดการแต่งหน้าหลังการฉายแสงในช่วง 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวได้พักฟื้นและลดโอกาสการอุดตันของรูขุมขน
- ไม่แกะหรือบีบสิว เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและแผลเป็น
- ดื่มน้ำมาก ๆ การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยการฟื้นฟูผิวจากการรักษา
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ กรด AHA, BHA หรือสารที่อาจทำให้ผิวระคายเคืองในช่วงแรกหลังการฉายแสง
ฉายแสงรักษาสิวที่ไหนดี? ต้องพิจารณาอะไรบ้าง?
- ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการรักษาสิวโดยเฉพาะ
- เลือกคลินิกที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าการรักษาเป็นไปตามมาตรฐานและมีความปลอดภัย
- รีวิวและผลลัพธ์จากลูกค้าที่ผ่านมา ควรตรวจสอบรีวิวจากผู้ที่เคยทำการรักษาที่คลินิกนั้น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผลลัพธ์และการบริการเป็นที่น่าพอใจ
- ความสะอาดและความปลอดภัยของสถานที่ และมีมาตรการป้องกันการติดเชื้อ
- การให้คำปรึกษาและการดูแลหลังการรักษา คลินิกที่ดีควรมีการให้คำปรึกษากับคนไข้ก่อนการรักษาและการดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิด รวมถึงคำแนะนำในการดูแลผิวหลังการฉายแสง
ที่ ลลิษาคลินิก เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลคุณในการรักษาสิวและปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ ด้วยโปรแกรมที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน โดยเฉพาะการ ฉายแสงรักษาสิว ซึ่งเป็นการรักษาที่ปลอดภัยและเห็นผลเร็ว นอกจากนี้ยังมีวิธีการรักษาอื่นๆ ที่เหมาะสมกับปัญหาของคุณ
สามารถเข้ามาพูดคุยและรับคำปรึกษาจากหมอตาล หรือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราได้ สามารถติดต่อเพื่อเข้ารับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Line official account @lalizaclinic
คำถามที่พบบ่อย
การฉายแสงรักษาสิวเจ็บไหม?
การฉายแสงรักษาสิว ไม่เจ็บ และไม่ต้องใช้เข็มหรือการผ่าตัด ระหว่างการรักษาคนไข้มักจะรู้สึกสบายและผ่อนคลาย
รักษากี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
การรักษาฉายแสงจะเห็นผลภายใน 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความรุนแรงของสิว หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น หมอตาลแนะนำให้ทำการรักษาต่อเนื่องทุก 1-2 สัปดาห์ จนกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน
สามารถแต่งหน้าหลังการฉายแสงได้ไหม?
หลังจากการฉายแสง ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าทันทีในช่วง 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูและลดการระคายเคือง
ผลข้างเคียงจากการฉายแสงรักษาสิวมีอะไรบ้าง?
ผลข้างเคียงอาจมีเล็กน้อย เช่น ผิวแห้งหรือระคายเคือง แต่จะหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมง หากมีอาการผิดปกติ เช่น แดงมากหรือบวม ควรรีบปรึกษาแพทย์
สรุป
การฉายแสงรักษาสิวเป็นวิธีรักษาสิวอีกวิธีหนึ่งที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงในการจัดการกับปัญหาสิวอักเสบและสิวเรื้อรัง โดยใช้แสงสีน้ำเงินฆ่าเชื้อแบคทีเรียและแสงสีแดงกระตุ้นการฟื้นฟูผิวจากภายใน ที่สำคัญอย่าลืมเลือกคลินิกที่มีผู้เชี่ยวชาญและใช้เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐาน เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
แหล่งอ้างอิงเกี่ยวกับข้อมูลฉายแสงรักษาสิว
healthline. Light Therapy for Acne What to Expect: Costs, Benefits, Risks & More. Medically reviewed by Cynthia Cobb, DNP, APRN, WHNP-BC, FAANP. Written by Kathryn Watson. June 26, 2019
https://www.healthline.com/health/skin/light-therapy-for-acne
clevelandclinic. LED Light Therapy: How It Works, Colors, Benefits & Risks
https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/22146-led-light-therapy
บทความโดย
ลลิษาคลินิก : คลินิกรักษาสิว ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง (ตจวิทยา) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาผิว
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้า เป็นสิว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวหนังที่ลลิษาคลินิกได้ ฟรี!! ที่ตั้งคลินิก เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น 9 (ติดบันไดเลื่อน) และ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 4