คลินิกรักษาสิว โดยแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ
สิวที่รักแร้ ควรรักษาอย่างไร? กี่วันถึงจะหาย? พร้อมไขข้อสงสัยมีสาเหตุเกิดจากอะไร

สิวที่รักแร้ อาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจเวลาจะยกแขนทีไรก็ต้องคอยระวัง เพราะกลัวคนจะเห็นหรือสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับผิวใต้วงแขนของเรา ความจริงแล้ว “สิวที่รักแร้” เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยกว่าที่คิด และไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย
ในบทความนี้ หมอจะพามาทำความรู้จักกับ “สิวที่รักแร้” ว่าเกิดจากอะไร พร้อมแนะนำวิธีดูแลผิวใต้วงแขนให้เรียบเนียน ห่างไกลสิว และกลับมามั่นใจได้ทุกครั้งที่ยกแขน
สิวที่รักแร้ คืออะไร

สิวที่รักแร้ (Armpit Pimple) คือ สิวที่เกิดขึ้นบริเวณผิวหนังใต้รอบแขน หรือที่เรียกกันว่ารักแร้ ซึ่งเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนหรือการอักเสบของต่อมไขมันในบริเวณนั้น สิวบริเวณนี้อาจมีลักษณะเป็นตุ่มแดง บวม และบางครั้งอาจมีหนองหรือเกิดการติดเชื้อได้ในกรณีที่อักเสบมากขึ้น
สาเหตุของสิวที่รักแร้ เกิดจากอะไร?

สิวที่รักแร้ เกิดจากหลายปัจจัยที่สามารถแบ่งออกเป็น ปัจจัยภายใน และ ปัจจัยภายนอก ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้สามารถส่งผลให้รูขุมขนเกิดการอุดตันและเกิดการอักเสบ จนทำให้เกิดสิวที่รักแร้ได้
ปัจจัยภายใน
- เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ช่วงวัยรุ่น, มีประจำเดือน หรือช่วงตั้งครรภ์ สามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมัน (sebum) มากขึ้น ซึ่งทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิว - เกิดจากการทำงานของต่อมไขมัน
การผลิตน้ำมันส่วนเกินจากต่อมไขมันที่รักแร้สามารถทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน ส่งผลให้เกิดสิวได้ - เกิดจากพันธุกรรม
หากครอบครัวมีประวัติเป็นสิว หรือมีแนวโน้มต่อการผลิตไขมันมากกว่าปกติ ก็มีโอกาสเกิดสิวที่รักแร้ได้มากขึ้น - เกิดจากความผิดปกติของต่อมเหงื่อ
การอุดตันหรือเหงื่อออกมากผิดปกติ สามารถทำให้เกิดสิวที่รักแร้ได้ เนื่องจากเหงื่อสะสมและการระบายไม่ดี ทำให้แบคทีเรียเติบโตและเกิดการอักเสบในรูขุมขน
ปัจจัยภายนอก

- เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย
โรลออนที่มีสารเคมี เช่น แอลกอฮอล์ หรือสารระงับเหงื่อบางชนิด (เช่น อะลูมิเนียม) อาจทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดการอักเสบได้ - เกิดจากการโกนขน
การโกนขนที่รักแร้บ่อยๆ อาจทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง หรือทำให้ขนคุดเกิดขึ้น ซึ่งสามารถทำให้เกิดสิวที่รักแร้ได้ - เกิดจากการเสียดสีจากเสื้อผ้า
เสื้อผ้าที่คับหรือวัสดุที่ไม่ระบายอากาศ อาจทำให้เกิดความอับชื้นและการเสียดสี ส่งผลให้รูขุมขนอุดตัน - เกิดจากความอับชื้นและเหงื่อ
สภาพอากาศร้อนหรือการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมากและไม่สามารถระบายได้ดีอาจทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและเกิดสิวที่รักแร้
สิวที่มักจะขึ้นรักแร้ เป็นประเภทไหนบ้าง

- สิวอุดตันที่รักแร้ (Comedonal Acne)
สิวอุดตันที่เกิดบริเวณนี้เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่รักแร้จากน้ำมัน สิ่งสกปรก หรือแบคทีเรีย มักจะมีลักษณะเป็น ตุ่มเล็ก ๆ หรือ จุดดำ โดยไม่ทำให้เกิดอาการอักเสบหรือเจ็บ - สิวอักเสบที่รักแร้ (Inflammatory Acne)
เกิดจากการอุดตันที่รุนแรงขึ้นจนทำให้เกิดการติดเชื้อและการอักเสบ มักมีลักษณะเป็น ตุ่มแดงบวม ที่เจ็บ หรือ สิวหนอง บริเวณรักแร้ หากอักเสบรุนแรงอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและแผลเป็น - สิวหัวหนองที่รักแร้ (Pustular Acne)
เกิดจากการติดเชื้อภายในรูขุมขน ทำให้สิวมีลักษณะเป็น ตุ่มหนอง หรือ หัวสิว สีขาวหรือเหลือง โดยจะมีอาการปวดบวมร่วมด้วย - สิวซีสต์ที่รักแร้ (Cystic Acne)
เกิดจากการอุดตันที่ลึกและรุนแรงทำให้เกิดก้อนแข็ง หรือ ซีสต์ ที่มีการสะสมของหนองภายใน สิวซีสต์จะมีลักษณะเป็น ก้อนบวม และเจ็บมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ หากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นแผลเป็น จำเป็นต้องผ่าตัดหรือการระบายหนอง
วิธีรักษาสิวที่บริเวณรักแร้

วิธีรักษาสิวที่รักแร้ด้วยตัวเอง
- รักษาความสะอาดผิวใต้วงแขน โดยล้างทำความสะอาดวันละ 2 ครั้งด้วยสบู่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงสบู่ที่มีน้ำหอมหรือสารระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการเสียดสี เลือกเสื้อผ้าที่โปร่ง ระบายอากาศได้ดี และหลีกเลี่ยงเสื้อผ้ารัดแน่นบริเวณรักแร้
- งดการถอนขนหรือแว็กซ์ระหว่างที่มีสิว เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบและติดเชื้อได้ง่าย
วิธีรักษาสิวที่รักแร้โดยแพทย์ผิวหนัง
- รักษาสิวที่รักแร้ด้วยยาทาแต้มสิวเฉพาะจุด
ใช้ยากลุ่มฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือลดการอักเสบ เช่น Benzoyl peroxide, Clindamycin หรือ Retinoid ยากลุ่มนี้จะช่วยให้หัวสิวยุบลง แต่ต้องทาอย่างสม่ำเสมอจึงจะเห็นผลดี และควรใช้เฉพาะบริเวณที่เป็นสิวเท่านั้น เพราะผิวใต้วงแขนค่อนข้างบอบบาง - รักษาสิวที่รักแร้โดยการกดสิว
ใช้อุปกรณ์เฉพาะเพื่อเอาหัวสิวหรือหนองออกอย่างถูกวิธี ซึ่งช่วยให้สิวแห้งและยุบเร็วขึ้น ป้องกันการอักเสบซ้ำ แต่การกดสิวที่รักแร้ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะผิวบริเวณนี้ไวและระคายเคืองง่าย หากกดเองอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือรอยดำตามมาได้ - รักษาสิวที่รักแร้โดยการเปิดหัวสิวเพื่อเอาขนคุดออก
สิวบางชนิดเกิดจากขนคุดฝังในผิว การรักษาคือต้องเปิดหัวสิวอย่างระมัดระวังเพื่อเอาเส้นขนที่ติดค้างออก แล้วทำความสะอาดผิวบริเวณนั้นเพื่อลดการอุดตันและป้องกันการอักเสบ - รักษาสิวที่รักแร้ด้วยการฉีดยาสเตียรอยด์เฉพาะจุด
สำหรับสิวอักเสบหรือก้อนซีสต์ที่บวมแดงมาก แพทย์อาจใช้การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าที่หัวสิวเพื่อลดการอักเสบเร็วขึ้น - รักษาสิวที่รักแร้โดยการผ่าตัดหรือระบายหนอง
ในกรณีที่เป็นสิวซีสต์หรือฝีที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยา แพทย์อาจใช้วิธีผ่าระบายหนอง เพื่อป้องกันการลุกลามและการเกิดแผลเป็นในอนาคต
บีบสิวที่รักแร้ได้ไหม?

ไม่ควรบีบสิวที่รักแร้ด้วยตัวเอง เพราะการบีบหรือกดสิวที่รักแร้อาจทำสิวอักเสบมากขึ้น เสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือเป็นฝีหนองได้
สิวที่รักแร้มีกลิ่น เพราะสาเหตุอะไร?
สิวที่รักแร้สามารถมีกลิ่นเหม็นได้ อาจได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย เหงื่อและไขมันสะสมเกิดการหมักหมม และ สิวเป็นฝีหรือหนอง เป็นต้น
วิธีดูแลผิวเมื่อเป็นสิวที่รักแร้ อย่างถูกวิธี

- ล้างผิวใต้วงแขนวันละ 1–2 ครั้งด้วยสบู่อ่อนโยน
- ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดแน่นเกินไป
- หลีกเลี่ยงการถอน โกน หรือแว็กซ์ขนขณะมีสิว
- เลือกโรลออนสูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม
- ทายาแต้มสิวเฉพาะจุดอย่างสม่ำเสมอ ตามคำแนะนำแพทย์
- ห้ามกด บีบ หรือแคะสิวด้วยตัวเองเด็ดขาด
- หากสิวเรื้อรังหรืออักเสบรุนแรง ควรพบแพทย์ผิวหนัง
สิวที่รักแร้ กี่วันหาย?
สิวที่รักแร้โดยทั่วไปจะหายภายใน 3–7 วัน แต่หากมีอาการอักเสบรุนแรง หรือดูแลบริเวณที่เป็นสิวไม่เหมาะสม อาจใช้เวลานานกว่านั้น
แชร์! วิธีป้องกัน จากหมอ

- รักษาความสะอาดผิวใต้วงแขนเป็นประจำทุกวัน
- หลีกเลี่ยงการโกนหรือถอนขนบ่อยเกินไป เพื่อลดการระคายเคืองผิว
- เปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังออกกำลังกายหรือเหงื่อออกมาก
- เลือกใช้สบู่และโรลออนสูตรอ่อนโยน ไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์
สิวที่รักแร้ อันตรายไหม?
จริง ๆ แล้วสิวที่รักแร้ไม่ได้มีความอันตราย แต่หากสิวมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือผิดปกติ มีไข้ มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ หรือ มีอาการเจ็บจนทนไม่ได้ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย เพราะอาจเป็นโรคใกล้เคียงได้ เช่น ฝี ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ เป็นต้น
คำถามพบบ่อย
สิวที่รักแร้หายเองได้ไหม?
สิวที่รักแร้สามารถหายได้เอง แต่ถ้าหากมีอาการบวม เจ็บ มีหนอง หรือเป็นซ้ำบ่อย ๆ อาจไม่หายได้เอง ต้องใช้ยาช่วยรักษา หรือเข้าพบแพทย์
ใช้โรลออน ทำให้เกิดสิวที่รักแร้จริงไหม?
จริง โรลออนบางชนิดสามารถทำให้เกิดสิวที่รักแร้ได้ โดยหากสงสัยว่าโรลออนเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว อาจหยุดใช้หรือเปลี่ยนโรลออนเป็นสูตรที่ไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์
ใช้โรลออนแล้วสิวขึ้น ทำยังไงดี?
ถ้าใช้โรลออนแล้วมีสิวขึ้นบ่อย ๆ แนะนำให้หยุดใช้โรลออนชั่วคราว เพื่อดูว่าสิวดีขึ้นไหม จากนั้นให้เปลี่ยนมาใช้โรลออนสูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารระคายเคือง
สิวที่รักแร้สามารถกลายเป็นฝีได้ไหม?
ได้ เพราะหากสิวที่รักแร้อักเสบรุนแรง หรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียจนลุกลาม อาจกลายเป็นฝี (abscess) ซึ่งเป็นก้อนหนองใต้ผิวหนังที่ปวด บวม และแดงมากขึ้น หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจต้องเจาะระบายหนองหรือใช้ยาปฏิชีวนะ
สรุป
สิวที่รักแร้เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและไม่ใช่เรื่องน่าอาย โดยเกิดจากหลายปัจจัย เช่น การอุดตันของรูขุมขน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองหรือการติดเชื้อแบคทีเรีย การดูแลและรักษาผิวใต้วงแขนอย่างถูกวิธี และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมจะช่วยลดโอกาสเกิดสิวได้ หากสิวไม่หายหรือมีอาการรุนแรง ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อหาต้นตอของสิวและรักษาให้ตรงจุด
หากปัญหาสิวที่รักแร้เรื้อรัง หรือรักษาไม่หายสักที แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวิเคราะห์สาเหตุและวางแผนการรักษาอย่างตรงจุด ที่ ลลิษาคลินิก เรามีทีมแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ในการดูแลปัญหาสิวทุกประเภท รวมถึงสิวที่รักแร้ พร้อมเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและการติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คนไข้กลับมามั่นใจในทุกการยกแขนอีกครั้ง
แหล่งอ้างอิงเกี่ยวกับข้อมูลสิวที่รักแร้
medicalnewstoday. Medically reviewed by Amanda Caldwell, MSN, APRN-C. Written by Nicole Galan, RN. August 1, 2024
https://www.medicalnewstoday.com/articles/325585
healthline. Armpit Pimples: Causes and Treatments. Medically reviewed by Cynthia Cobb, DNP, APRN, WHNP-BC, FAANP. Written by Kiara Anthony. May 26, 2023.
https://www.healthline.com/health/armpit-pimple
revivalresearch. Armpit Pimples: Causes, Symptoms & Clinical Treatments. Hoor Abdul Ghani
Medically Reviewed By Alia Hanif Khan. December 24, 2024.
https://revivalresearch.org/blogs/armpit-pimples/
บทความโดย
ลลิษาคลินิก : คลินิกรักษาสิว ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง (ตจวิทยา) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาผิว
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้า เป็นสิว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวหนังที่ลลิษาคลินิกได้ ฟรี!! ที่ตั้งคลินิก เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น 9 (ติดบันไดเลื่อน) และ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 4