คลินิกรักษาสิว โดยแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ
หน้าแรก / Skin diseases / ฉายแสงสะเก็ดเงิน คืออะไร? เหมาะกับใคร เจ็บไหม เห็นผลจริงหรือไม่
ฉายแสงสะเก็ดเงิน คืออะไร? เหมาะกับใคร เจ็บไหม เห็นผลจริงหรือไม่

หาคำตอบ! ฉายแสงสะเก็ดเงิน คืออะไร? ฉายแสงสะเก็ดเงิน หรือ Phototherapy เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาโรคสะเก็ดเงินที่ได้รับความสนใจอย่างมาก แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่าการรักษาด้วยวิธีนี้คืออะไร การฉายแสงสะเก็ดเงินดีอย่างไร ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล และที่สำคัญคือจะเจ็บหรือไม่
บทความนี้หมอตาลจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการฉายแสงสะเก็ดเงินอย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจและตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเราที่สุด
ฉายแสงสะเก็ดเงิน คืออะไร?
การฉายแสงสะเก็ดเงิน คือวิธีช่วยบรรเทาอาการโรคสะเก็ดเงินได้ง่าย ๆ โดยใช้แสงอัลตราไวโอเลต (UV) เข้าไปจัดการกับปัญหาผิวของเรานั่นเอง ซึ่งแสง UV จะเข้าไป ยับยั้งการอักเสบของผิวหนัง และยังไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานได้ดีขึ้น พอผิวของเรามีการอักเสบลดลง และภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้น อาการของโรคสะเก็ดเงินก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว การฉายแสงจะใช้แสง UVB หรือ Excimer Light ซึ่งเป็นแสง UV ชนิดคลื่นสั้น (ความยาวคลื่นประมาณ 308-380 นาโนเมตร) แสงนี้จะถูกส่งไปที่บริเวณที่เป็นสะเก็ดเงินโดยตรง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลักการทำงานของการฉายแสงสะเก็ดเงิน

มาดูกันว่าทำไมแสงถึงช่วยเรื่องสะเก็ดเงินได้ ดังนี้
- ยับยั้งเซลล์ภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ: แสงอัลตราไวโอเลต (UV) จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันในผิวหนังที่ทำงานมากเกินไป เป็นสาเหตุของการอักเสบและการหนาตัวของผิวหนังในคนไข้สะเก็ดเงิน การควบคุมการทำงานของเซลล์เหล่านี้ช่วยลดอาการอักเสบและช่วยให้ผิวหนังกลับสู่สภาพปกติ
- แสง Excimer Light ที่แม่นยำ: เทคโนโลยี Excimer Light มีความพิเศษตรงที่มีตัวกรองแสง ทำให้สามารถปล่อยลำแสง UV ที่มีความเข้มข้นสูงไปยังบริเวณที่เป็นสะเก็ดเงินโดยเฉพาะ โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้างที่ไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยลดผลข้างเคียงจากการได้รับรังสี UV เกินความจำเป็น และเพิ่มความปลอดภัยในการรักษา
- แผนการรักษาเฉพาะบุคคล: โดยทั่วไป การรักษาด้วยการฉายแสงจะทำเป็นประจำตามที่หมอผิวหนังกำหนด เช่น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ระยะเวลาและจำนวนครั้งของการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและผลตอบสนองของแต่ละบุคคล หมอจะประเมินและปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ฉายแสงสะเก็ดเงิน ปลอดภัยไหม?
การฉายแสง Excimer Light และ UVB Phototherapy ถือว่าค่อนข้างปลอดภัยเมื่อทำโดยหมอผิวหนังเชี่ยวชาญและคนไข้ปฏิบัติตามคำแนะนำ อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น คัน แสบ ผิวแห้ง หรือผิวลอก รวมถึงผิวไหม้แดงและสีผิวคล้ำขึ้นชั่วคราว ซึ่งจะดีขึ้นหลังหยุดการรักษา สิ่งสำคัญคือต้อง ปกป้องผิวที่ไม่เป็นผื่น และสวมแว่นกัน UV เสมอ วิธีนี้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น ผู้มีประวัติมะเร็งผิวหนัง หรือใช้ยาที่ทำให้ไวต่อแสง ควรปรึกษาหมอก่อนเสมอ
ฉายแสงสะเก็ดเงิน เจ็บหรือเปล่า
โดยทั่วไปแล้ว การฉายแสง Excimer Light เพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงินจะไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด หรือแสบร้อนขณะทำ แต่อาจรู้สึกไม่สบายเล็กน้อย หรือมีอาการคันหลังการรักษาได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความไวของผิวหนังแต่ละบุคคล ถ้ามีอาการเจ็บ หรือแสบมากผิดปกติ ควรแจ้งหมอผิวหนังเพื่อพิจารณาปรับแผนการรักษาให้เหมาะสม
แนะนำการฉายแสงสะเก็ดเงิน ด้วยเทคโนโลยีฉายแสงอาทิตย์เทียม (Excimer UV 308)
เทคโนโลยีฉายแสงอาทิตย์เทียม (Excimer UV 308) คือการใช้แสงอัลตราไวโอเลตชนิด UVB ที่มีความยาวคลื่นพิเศษ 308 นาโนเมตร โดยแสงจะผ่านตัวกรองที่เรียกว่า Excimer Light ทำให้แสงมีความเข้มและตรงเป้าหมายไปที่บริเวณผื่นสะเก็ดเงินโดยเฉพาะ ไม่ทำลายผิวหนังส่วนอื่น ๆ ที่อยู่รอบข้าง จึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมและลดผลข้างเคียงเมื่อเทียบกับการฉายแสงแบบเก่า ๆ
สะเก็ดเงินชนิดไหน เหมาะกับการรักษาด้วยการฉายแสงอาทิตย์เทียม
การรักษาด้วย Excimer UV 308 เหมาะกับคนไข้สะเก็ดเงินในกลุ่มนี้
- สะเก็ดเงินปานกลางถึงรุนแรงที่ยาไม่ช่วย: ถ้าคุณเป็นสะเก็ดเงินชนิดปานกลางถึงรุนแรง แล้วลองใช้ยาทาแล้วยังไม่ค่อยเห็นผล วิธีนี้ก็น่าสนใจเลย
- ผื่นไม่เกิน 20% ของร่างกาย: เหมาะสำหรับคนที่มีผื่นสะเก็ดเงินครอบคลุมพื้นที่ร่างกายไม่มาก (ไม่เกิน 20%)
- ผื่นเล็ก ๆ หรือซอกหลืบ: ไม่ว่าจะเป็นผื่นจุดเล็ก ๆ หรือตามซอกหลืบที่เข้าถึงยากอย่างข้อศอก, หัวเข่า, ริมฝีปาก, หนังศีรษะ หรือแม้แต่ไรผม ก็สามารถรักษาได้ตรงจุด
- อยากลดผลข้างเคียงจากการฉายแสง: ด้วยความที่ Excimer UV 308 สามารถฉายแสงเฉพาะจุดได้ ทำให้ช่วยลดผลข้างเคียงจากการฉายแสงแบบเดิม ๆ ได้เป็นอย่างดีเลย
ข้อดีของการฉายแสงรักษาสะเก็ดเงิน ช่วยอะไรบ้าง

การรักษาโรคสะเก็ดเงินด้วย Excimer UV 308 มีข้อดีหลายอย่าง ดังนี้
- แสงจะพุ่งตรงไปที่บริเวณผื่นสะเก็ดเงินเท่านั้น ผิวปกติรอบข้างก็เลยไม่โดนผลกระทบไปด้วย
- แต่ละครั้งที่ฉายแสงใช้เวลาสั้นกว่าการฉายแสงแบบ UVB ทั่วไป
- ส่วนใหญ่แล้วจะเจอแค่ผิวแดงนิดหน่อย หรือผิวแห้งเล็กน้อยเท่านั้นเอง และที่สำคัญคือไม่เจ็บเลยตอนที่ทำ
- ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในผิวหนังกลับมาเป็นปกติ ลดการอักเสบ และช่วยควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ผิวที่ผิดปกติได้ด้วย
- ไม่ว่าจะเป็นข้อศอก, หัวเข่า หรือแม้แต่พื้นที่เล็ก ๆ ที่รักษายากด้วยวิธีอื่น Excimer UV 308 ก็จัดการได้อยู่หมัด
- เป็นการรักษาที่ปลอดภัยทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่
ผู้ที่ควรเลี่ยงการฉายแสงสะเก็ดเงิน
แม้ว่าการฉายแสง Excimer UV 308 จะเป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็มีบางกรณีที่ไม่แนะนำให้ทำ เพื่อความปลอดภัย ลองมาดูกันว่าใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงวิธีนี้
- เคยมีประวัติมะเร็งผิวหนัง ถ้าเคยเป็นมะเร็งผิวหนัง หรือเนื้องอกมาก่อน ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้
- เคยฉายแสงรักษามะเร็งผิวหนัง หากเคยได้รับการฉายแสงเพื่อรักษามะเร็งผิวหนังมาก่อน ก็ควรเลี่ยงเช่นกัน
- ผิวแพ้แสงง่าย หรือผิวแห้งมาก คนที่มีผิวไวต่อแสง หรือมีภาวะผิวแห้งมาก ๆ อาจไม่เหมาะกับการรักษาด้วยวิธีนี้
- เด็กเล็ก โดยทั่วไปแล้ว เด็กอายุต่ำกว่า 10-12 ปี อาจต้องให้หมอพิจารณาเป็นพิเศษ
- ทานยากดภูมิ หรือยาที่ทำให้ผิวไวแสง หากคุณกำลังทานยากดภูมิคุ้มกัน หรือยาบางชนิดที่ทำให้ผิวไวต่อแสง ควรแจ้งหมอให้ทราบก่อน
- โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง คนไข้ที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันบางชนิด ก็ควรหลีกเลี่ยง
- ผิวหนังผิดปกติแต่หาสาเหตุไม่ได้ ถ้าผิวหนังกำลังอยู่ในระยะพักฟื้น หรือยังไม่สามารถหาสาเหตุของความผิดปกติได้ ก็ยังไม่ควรทำ
- คุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร ควรงดการรักษาด้วยวิธีนี้ไปก่อน
- มีโรคผิวหนังอื่นร่วมด้วย ถ้ามีโรคผิวหนังอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังบางชนิด หมออาจต้องพิจารณาเป็นพิเศษ
- ไม่ตอบสนองต่อการรักษา หรือหมอห้าม สุดท้าย หากหมอพิจารณาแล้วว่าคุณไม่ตอบสนองต่อการรักษา หรือมีข้อห้ามเฉพาะอื่น ๆ ก็ไม่ควรทำ
ฉายแสงสะเก็ดเงิน ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล
หลายคนอาจสงสัยว่าต้องรักษานานแค่ไหนถึงจะเห็นผลจากการฉายแสง Excimer UV 308 หรือ UVB Phototherapy โดยทั่วไปแล้ว จะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของผื่นสะเก็ดเงินได้หลังจากรับการรักษาประมาณ 4-8 สัปดาห์ หรือประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งระยะเวลาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของผื่นที่เป็น และการตอบสนองต่อการรักษาของแต่ละคน
สำหรับการรักษา หมอจะนัดให้มาฉายแสงประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การรักษาจะต้องต่อเนื่องตามคำแนะนำของหมอ ซึ่งบางกรณีอาจจะต้องรักษากันยาวหน่อย ประมาณ 2-3 เดือน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอาการของคนไข้เป็นหลักเลย
ข้อควรรู้ก่อนฉายแสงสะเก็ดเงิน มีอะไรบ้าง

การฉายแสงรักษาโรคสะเก็ดเงินเป็นการรักษาที่ได้ผลดีและปลอดภัย ถ้าทำโดยหมอผู้เชี่ยวชาญ แต่ก็มีสิ่งที่คนไข้ต้องเตรียมตัวและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
- ปกป้องผิวที่ปกติ: ต้องปกป้องผิวส่วนที่ไม่มีผื่นให้ดี เช่น การทาครีมกันแดด หรือสวมเสื้อผ้าแขนยาวขายาว
- ใส่แว่นป้องกันแสง: ระหว่างฉายแสง อย่าลืมสวมแว่นตาป้องกันรังสี UV เสมอ
- แจ้งประวัติกับคุณหมอ: ต้องบอกประวัติการใช้ยาและโรคประจำตัวทั้งหมดให้คุณหมอทราบ
- รีบบอกถ้าผิดปกติ: ถ้ามีอาการผิดปกติเกิดขึ้นระหว่างการรักษา ต้องรีบแจ้งคุณหมอทันที เพื่อที่คุณหมอจะได้ปรับการรักษาให้เหมาะสม
- เลี่ยงแดดจัดหลังทำ: หลังการฉายแสง ควรงดออกแดดจัด ๆ เพื่อป้องกันผิวหนังอักเสบหรือไหม้จากแสง
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำ
ก่อนที่คุณจะเข้ารับการฉายแสงเพื่อรักษาสะเก็ดเงิน มีขั้นตอนและข้อแนะนำสำคัญที่ควรรู้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การรักษาได้ผลดีและปลอดภัยที่สุด
- ล้างผิวให้สะอาด: บริเวณที่จะฉายแสงต้องไม่มีเครื่องสำอาง ครีมกันแดด หรือน้ำมันใด ๆ เลยนะคะ เพื่อให้แสงซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่
- งดผลิตภัณฑ์บางอย่าง: งดใช้ครีม โลชั่น หรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำมันทุกชนิดก่อนฉายแสง เพราะอาจขวางไม่ให้แสงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- อาจมีการทดสอบแสง (MED Test): คุณหมออาจจะทดสอบระดับพลังงานของแสงบนผิวส่วนที่ไม่เป็นสะเก็ด เช่น ท้องแขน เพื่อหาปริมาณแสงที่เหมาะสมกับผิวคุณที่สุด ผลจะทราบภายใน 24 ชั่วโมง
- แจ้งประวัติยาและโรคประจำตัว: สำคัญมาก ๆ เลย ต้องบอกคุณหมอให้ครบถ้วน ทั้งยาที่กำลังทานอยู่ และโรคประจำตัว เพราะยาบางชนิดอาจทำให้ผิวไวต่อแสงได้
- แต่งกายให้พร้อม: เลือกเสื้อผ้าที่สามารถเปิดบริเวณที่ต้องการฉายแสงได้อย่างสะดวก เช่น เสื้อแขนสั้น หรือกางเกงขาสั้น เพื่อให้คุณหมอฉายแสงได้ทั่วถึง
- ปกป้องผิวดี ๆ : ปิดคลุมผิวส่วนที่ไม่เป็นสะเก็ดและบริเวณที่ไม่ต้องการรับแสง เช่น ใบหน้า หรืออวัยวะเพศ เพื่อป้องกันผิวแห้ง แดง หรือไหม้
ขั้นตอนการฉายแสงรักษาสะเก็ดเงิน
ตอนที่เข้ารับการฉายแสง Excimer UV 308 และหลังจากนั้น มีข้อปฏิบัติง่าย ๆ ที่ควรรู้ไว้ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุด
- เตรียมผิวให้พร้อม: เปลี่ยนชุดหรือเปิดเสื้อผ้าเพื่อให้ผิวบริเวณที่จะฉายแสงสัมผัสกับแสงได้อย่างเต็มที่
- ใส่แว่นตาป้องกัน UV: ทั้งคุณและคุณหมอจะต้องสวมแว่นตาป้องกันรังสี UV เสมอ เพื่อปกป้องดวงตา
- อยู่นิ่ง ๆ: พยายามอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับตัวมากนัก และงดการพูดคุยสื่อสาร เพื่อลดความเสี่ยงจากการได้รับแสงที่ไม่จำเป็น
- ใช้เวลาสั้น ๆ: การฉายแสงแต่ละบริเวณผิวที่มีผื่นจะใช้เวลาเพียง 15-60 วินาที เท่านั้น
อาการข้างเคียงหลังฉายแสงสะเก็ดเงิน มีอะไรบ้าง
หลังจากการฉายแสงสะเก็ดเงินด้วย Excimer UV 308 เพื่อรักษาสะเก็ดเงิน อาจมีอาการข้างเคียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้นได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่รุนแรงและเป็นเพียงชั่วคราว
- ผิวแดงหรืออักเสบ: บริเวณที่โดนแสงอาจมีรอยแดง หรืออักเสบได้บ้าง แต่ไม่ต้องกังวล อาการเหล่านี้จะหายไปเอง
- ผิวแห้งหรือลอก: บางคนอาจรู้สึกว่าผิวแห้งขึ้น หรือมีอาการลอกเล็กน้อยหลังการรักษา
- คันหรือระคายเคือง: อาจมีอาการคัน หรือรู้สึกไม่สบายผิวได้ในบางราย
- สีผิวเปลี่ยนชั่วคราว: บางกรณี สีผิวบริเวณที่รักษาอาจคล้ำขึ้น หรือจางลงชั่วคราวได้
- แสบหรือเจ็บเล็กน้อย: ถ้าผิวคุณไวต่อแสงมาก ๆ อาจมีอาการแสบหรือเจ็บเล็กน้อยได้บ้าง แต่โดยทั่วไปแล้ว การฉายแสง Excimer จะไม่ทำให้เจ็บในขณะทำเลย
ข้อแนะนำจากแพทย์! การดูแลตัวเองหลังทำ
เพื่อให้การรักษาด้วยการฉายแสง Excimer UV 308 ได้ผลดีที่สุด และช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น คุณหมอมีคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังการรักษามาฝาก ดังนี้
- ห้ามเกา พยายามหลีกเลี่ยงการเกาหรือขีดข่วนผิวบริเวณที่ฉายแสง เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองและอาการแย่ลงได้
- ใช้สบู่อ่อนโยน ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำเปล่าและสบู่อ่อน ๆ เท่านั้น หลีกเลี่ยงสบู่แรง ๆ หรือสารเคมีที่อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง
- โบกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดอาการผิวแห้งและคันได้ดี
- เลี่ยงแดดจัด หลังการรักษา ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจัด ๆ ถ้าจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ให้ใส่เสื้อผ้าปกป้องผิว หรือทาครีมกันแดดที่เหมาะสมเสมอ
- งดแอลกอฮอล์ ลดเครียด แอลกอฮอล์และความเครียดอาจกระตุ้นให้สะเก็ดเงินกำเริบได้
- พักผ่อนให้พอ สุขภาพแข็งแรง การพักผ่อนให้เพียงพอและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและทำให้การรักษาได้ผลดีขึ้น
- สังเกตอาการผิดปกติ คอยสังเกตอาการต่าง ๆ เช่น ผิวแดง แสบ คัน หรือมีตุ่มน้ำพอง ถ้ามีอาการรุนแรง ควรรีบปรึกษาคุณหมอทันที
- ไปตามนัดหมอ อย่าลืมไปตามนัดหมายและรับการรักษาอย่างต่อเนื่องตามที่คุณหมอแนะนำ การรักษาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นและลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำได้
ฉายแสงสะเก็ดเงิน ราคาเท่าไหร่
ราคาฉายแสง Excimer UV 308 จะแตกต่างกันไปตามแต่ละคลินิกและโรงพยาบาล รวมถึงจำนวนครั้งที่ฉายแสงและความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปต้องทำสัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง ต่อเนื่องกันหลายเดือนกว่าจะเห็นผล
ข้อเสียของการฉายแสงรักษาสะเก็ดเงิน มีอะไรบ้าง
แม้ว่าการฉายแสงเพื่อรักษาสะเก็ดเงินจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีบางจุดที่คุณควรพิจารณาเช่นกัน
- ผลข้างเคียงเล็กน้อย อาจมีอาการผิวแดง แสบ หรือคันบริเวณที่ฉายแสง แต่จะเป็นแค่ชั่วคราว
- ผิวแห้งหรือลอก บางคนอาจพบว่าผิวแห้ง หรือลอกเล็กน้อยหลังการรักษา
- สีผิวเปลี่ยน สีผิวบริเวณที่โดนแสงอาจคล้ำขึ้น หรือจางลงได้ชั่วคราว
- อาจไวแสงขึ้น ในบางกรณี ผิวอาจไวต่อแสงมาก ทำให้รู้สึกเจ็บหรือแสบเล็กน้อยตอนทำหรือหลังทำได้
- ต้องระวังไม่ให้โดนผิวดี ๆ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้แสงไปโดนผิวส่วนที่ไม่เป็นอะไรมากเกินไป
- ความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง (กรณีใช้เวลานาน/บ่อย) หากฉายแสงบ่อยครั้งและเป็นระยะเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม
- ไม่เหมาะกับทุกคน การรักษานี้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น คนที่เคยเป็นมะเร็งผิวหนัง หรือคนที่กำลังทานยาที่ทำให้ผิวไวต่อแสง
- ต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด ทั้งก่อนและหลังการฉายแสง เพื่อป้องกันผลข้างเคียง
ข้อพิจารณาการเลือกฉายแสงสะเก็ดเงิน ที่ไหนดี
พอรู้แล้วว่าการฉายแสงช่วยเรื่องสะเก็ดเงินได้ ทีนี้มาดูกันดีกว่าว่าจะเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลสำหรับฉายแสงสะเก็ดเงินที่ไหนดี ถึงจะมั่นใจได้ว่าเราจะได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและเห็นผลจริง การเลือกสถานพยาบาลที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ มี 4 ข้อหลัก ๆ ที่เราควรพิจารณา
1. คุณหมอและทีมงานต้องเก่ง
เลือกที่ที่มีหมอผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ ด้านการฉายแสงสะเก็ดเงินโดยตรงจะดีที่สุด เพราะคุณหมอจะวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และทำให้เรามั่นใจได้ว่าอยู่ในการดูแลของมืออาชีพจริง ๆ
2. เครื่องมือต้องทันสมัย
สถานพยาบาลควรใช้เครื่องฉายแสงที่ได้มาตรฐาน เช่น เครื่อง Excimer UV 308 หรือ NB-UVB ที่สามารถควบคุมความเข้มของแสง และยิงแสงได้ตรงจุดเฉพาะบริเวณที่เป็นผื่นสะเก็ดเงินเท่านั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา และลดผลกระทบต่อผิวหนังส่วนอื่น ๆ
3. บริการครบวงจร ดูแลดีเยี่ยม!
ควรเลือกที่ที่มีการให้คำปรึกษาอย่างละเอียด ตั้งแต่ก่อนเริ่มรักษา มีการตรวจสภาพผิวอย่างละเอียด และติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ทีมงานควรให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังการฉายแสงอย่างครบถ้วน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
4. สะดวก ปลอดภัย เดินทางง่าย!
สุดท้าย อย่าลืมพิจารณาเรื่อง ความสะอาด มาตรฐานความปลอดภัยของสถานที่ การจัดการคิวและการนัดหมายที่เหมาะสม รวมถึงการเดินทางที่สะดวกสบายด้วย สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพค่ะ
การเลือกสถานพยาบาลสำหรับการฉายแสงสะเก็ดเงิน ควรพิจารณาจากความเชี่ยวชาญของหมอและทีมงาน, เทคโนโลยีเครื่องมือที่ใช้, การบริการดูแลที่ครบวงจร, และความสะดวกปลอดภัยของสถานที่ เพื่อให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัย
ทำไมหลาย ๆ คนถึงเลือกรักษาโรคสะเก็ดเงิน ที่คลินิกผิวหนัง ลลิษา

ถ้าคุณกำลังมองหาที่รักษาโรคสะเก็ดเงินแบบครบวงจรและน่าเชื่อ-ถือ คลินิกผิวหนังลลิษา เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะที่นี่โดดเด่นเรื่องการดูแลโรคผิวหนังเรื้อรังอย่างโรคสะเก็ดเงิน ด้วยโปรแกรมฉายแสง Excimer UV308 ที่ทันสมัย ช่วยลดการอักเสบได้ตรงจุดสุด ๆ
สิ่งที่ทำให้คลินิกผิวหนังลลิษาแตกต่างคือ การดูแลโดยหมอผิวหนังเฉพาะทาง ที่จบด้านตจวิทยาโดยตรง ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการวินิจฉัยและคำแนะนำที่แม่นยำ คุณหมอจะให้คำปรึกษาและติดตามผลอย่างใกล้ชิด แถมยังมีรีวิวและผลลัพธ์การรักษาจริงให้เห็นอีกด้วย นอกจากนี้ สถานที่ยังสะอาด ปลอดภัย และมีโปรโมชั่นดี ๆ พร้อมคำแนะนำเฉพาะบุคคล ใครที่อยากได้ผลการรักษาที่น่าเชื่อถือ พร้อมการดูแลแบบครบวงจร ต้องลองพิจารณาที่นี่เลย
สรุป
การฉายแสง Excimer UV 308 ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและปลอดภัยในการรักษาสะเก็ดเงิน ช่วยลดการอักเสบได้อย่างตรงจุดโดยไม่ทำร้ายผิวดี ๆ รอบข้าง ดังนั้น การเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานจึงสำคัญมาก คลินิกผิวหนังลลิษา โดดเด่นด้วยทีมหมอผิวหนังเฉพาะทางที่เชี่ยวชาญจริง ๆ พร้อมเครื่องมือทันสมัย และการดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้มั่นใจได้ในผลลัพธ์การรักษา หากคุณกำลังมองหาที่รักษาโรคสะเก็ดเงินคุณภาพดี คลินิกผิวหนังลลิษาคือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลย
แหล่งอ้างอิงเกี่ยวกับข้อมูลฉายแสงสะเก็ดเงิน
aad. Psoriasis treatment: Phototherapy
https://www.aad.org/public/diseases/psoriasis/treatment/medications/phototherapy
webmd. Phototherapy for Psoriasis Treatment: Types, Purpose, Risks. Written by WebMD Editorial ContributorsMedically Reviewed by Brunilda Nazario, MD on October 18, 2023
https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/psoriasis/phototherapy
บทความโดย
ลลิษาคลินิก : คลินิกรักษาสิว ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง (ตจวิทยา) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาผิว
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้า เป็นสิว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวหนังที่ลลิษาคลินิกได้ ฟรี!! ทุกสาขา