5 สาเหตุผิวหน้าไม่เรียบเนียน และการรักษาให้ผิวดีขึ้น

ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน เป็นตุ่ม รวมถึงปัญหาผดผื่น โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน ทำให้เกิดผดผื่นได้ง่าย แม้ว่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ก็สร้างความกวนใจให้เราทุกครั้งที่สัมผัสหน้า หรือทำให้ไม่มั่นใจเวลาแต่งหน้าแล้วผิวดูไม่เรียบเนียน หากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลเสียต่อสภาพผิวในระยะยาวได้

บทความนี้ เราจะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกับปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียนว่ามีกี่แบบ? รวมถึงสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน และจะมาบอกเคล็ดลับและวิธีรักษาผิวหน้าที่ไม่เรียบเนียน ให้กลับมาเนียนใสได้อย่างถูกวิธี

ผิวไม่เรียบเนียนคืออะไร

ผิวไม่เรียบเนียน คือผิวหน้าที่มีการเกิดริ้วรอย, เป็นตุ่ม, รูขุมขนกว้าง, แห้งลอก หรือมีหลุมสิว จนส่งผลให้เกิดความกังวลใจเวลาแต่งหน้าหรือความมั่นใจเมื่อต้องพบปะผู้คน ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ

ผิวหน้าไม่เรียบเนียน มีกี่แบบ

• ผิวหน้าไม่เรียบเนียน เป็นตุ่ม : มักเกิดจาก “ตุ่มซีสต์” หรือก้อนไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ไม่มีหัวสิว มักเกิดในชั้นผิวตื้น ๆ ส่วนใหญ่เกิดจากรูขุมขนอุดตันจากการสะสมของเคราตินและเซลล์ผิวหนัง

• ผิวหน้าไม่เรียบเนียน จากปัญหาสิว : ไม่ว่าจะเป็นสิวผด สิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสร้างความรำคาญใจให้กับหลาย ๆ คน

• ผิวหน้าไม่เรียบเนียนจากการเป็นหลุมสิว : หลังจากสิวหายแล้ว ก็มักจะทิ้งรอยแผลหรือหลุมลึก โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อหรือการอักเสบของผิวจากการกดสิว ทำให้ผิวสมานตัวได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผิวหน้ามีลักษณะเป็นหลุมบ่อและไม่เรียบเนียน

• ผิวหน้าไม่เรียบเนียนจากรูขุมขนกว้าง : เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน โดยเฉพาะบริเวณ T-zone เช่นแก้มและปลายจมูก เกิดขึ้นจากรูขุมขนที่ขยายกว้างขึ้นเพื่อขับน้ำมัน เหงื่อ และของเสียออก

• ผิวหน้าไม่เรียบเนียนจากปัญหาผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น : ผิวแห้ง หรือ (Dry skin) สามารถสังเกตได้จากอาการผิวแห้งตึง ลอกเป็นขุย หรือแห้ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว ทำให้ผิวสัมผัสของใบหน้าไม่เรียบเนียน จึงจำเป็นต้องบำรุงโดยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

• ผิวหน้าไม่เรียบเนียนจากโรคผิวหนัง : โรคผิวหนัง เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน เนื่องจากทำให้เกิดอาการผิวลอกเป็นขุย หรือแม้กระทั่งการเกิดเนื้องอก (Neoplasms) ส่งผลให้ผิวหน้ามีความผิดปกติจนทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน

• ผิวหน้าไม่เรียบเนียนจากริ้วรอย : ริ้วรอย (Wrinkles) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่ออายุเพิ่มขึ้น สาเหตุหลักเกิดจากการที่ร่างกายผลิตคอลลาเจนลดลง ทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น เต่งตึง จนกลายเป็นริ้วรอยและร่องลึก

• ผิวหน้าไม่เรียบเนียนจากขน : เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน เพราะขนที่มีความแข็งหรือหนาเกินไป ทำให้แต่งหน้าลำบาก หรือเกิดรอยเส้นขนขึ้นบนผิวหน้า อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ พฤติกรรมการโกนขน หรือการใช้ยาบางชนิด ซึ่งอาจกระตุ้นการเติบโตของขนให้เร็วขึ้นได้

สาเหตุผิวไม่เรียบเนียนเกิดจากอะไร

ผิวไม่เรียบเนียน อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อสุขภาพผิวซึ่งแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับผิวหน้าของแต่ละคน เรามาดูไปพร้อม ๆ กันว่ามีสาเหตุใดบ้างที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบ

ผิวหน้าไม่เรียบเนียนเกิดจากสาเหตุดังนี้

1. อายุ

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น การผลิตคอลลาเจนในผิวจะลดลง ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยและหย่อนคล้อย และมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาผิวมากขึ้น เช่น ฝ้า กระ หรือสิวประเภทต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน

2. ปัญหามลภาวะและสิ่งแวดล้อม

ปัญหามลภาวะ เช่น ฝุ่น ควัน สภาพอากาศและสิ่งสกปรกที่อยู่ในชีวิตประจำวัน สามารถทำให้ผิวอุดตันจนกลายเกิดสิวได้ รวมถึงแสงแดดและฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นตัวการสาเหตุทำลายโครงสร้างผิวของเรา และกระตุ้นให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา

3. พฤติกรรมการดูแลผิว

เช่น การล้างหน้าไม่สะอาดหรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่ตรงกับสภาพผิวของตนเอง อาจทำให้เกิดปัญหาผิวแพ้ระคายเคือง ปัญหาสิวหรือตุ่มผดได้ รวมถึงการทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อผิว ดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้นได้

4. ฮอร์โมน

การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสภาพผิว โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นและในผู้หญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้มักทำให้เกิดปัญหาผิว เช่น สิวและรูขุมขนที่กว้างขึ้น

5. ความเครียด

เมื่อร่างกายเกิดความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเกิดการแปรปรวน โดยเฉพาะการทำงานของต่อมไขมันในผิวหนัง ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ง่ายขึ้น

ใช้อะไรดูแลผิวหน้าที่ไม่เรียบเนียนได้บ้าง

1. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า
   ผิวไม่เรียบเนียน ใช้อะไรดี? แนะนำควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมประกอบด้วย วิตามินซี (Vitamin C) เรตินอล AHA หรือ BHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวสร้างคอลลาเจนและลดรอยดำ แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการผิวระคายเคืองได้เช่นกัน จึงไม่ควรซื้อมาใช้เอง
2. ยาทาภายนอก
   สำหรับรักษาผิวไม่เรียบเนียนและสิว เช่น วิตามินเอ (Retinoids) และ Benzoyl peroxide ช่วยลดการอุดตันและฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุของสิว อย่างไรก็ตาม ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะอาจทำให้ผิวบางและไวต่อแสงได้
3. สครับผิว
   การสครับหรือขัดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวเก่าออก เผยผิวใหม่ที่เรียบเนียนและกระจ่างใสมากขึ้น
4. ทาครีมกันแดด
   การทาครีมกันแดดเป็นขั้นตอนการดูแลผิวที่สำคัญอย่างมาก แต่หลาย ๆ คน อาจมองข้ามไป เพราะรังสี UV ที่อยู่ในแสงแดดเป็นตัวการทำร้ายผิว จึงควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเสมอ จะช่วยลดปัญหาฝ้า กระ สิวผด ผิวหมองคล้ำได้

รวมวิธีดูแลรักษา

1. การฉีดเมโส

เป็นวิธีหนึ่งในการรักษาผิวไม่เรียบเนียน โดยใช้เข็มเล็ก ๆ สะกิดตัวยาที่มีส่วนผสมของวิตามิน แร่ธาตุ และคอลลาเจน เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และฟื้นฟูสภาพผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใส และลดปัญหาเรื่องสิวได้

2. เลเซอร์ผิว

ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีเครื่องเลเซอร์หลากหลายชนิด เพื่อใช้รักษาผิวหน้าไม่เรียบเนียน เช่น E-Matrix, Pico laser, Q-Switch Laser ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน รวมถึงช่วยลดเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น

3. การใช้ยารักษาสิวและโรคผิวหนังต่าง ๆ

มักใช้รักษาสิว ทั้งสิวอักเสบ สิวหัวปิด สิวเสี้ยน สิวข้าวสาร และผิวหนังอักเสบ โดยการใช้ยาในกลุ่มวิตามินเอ (Retinoids) เนื่องจากยาดังกล่าวมีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย จึงสามารถใช้รักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. กดสิว ฉีดสิว

การกดสิวเพื่อเอาหัวสิวอุดตันออก จะช่วยให้ผิวมีความเรียบเนียนขึ้น อย่างไรก็ตาม การกดสิวไม่แนะนำสำหรับสิวอักเสบ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อและทำให้สิวอักเสบหนักขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ ควรกดสิว ฉีดสิว โดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากการทำหัตถการเหล่านี้ต้องอาศัยความชำนาญในการทำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการเกิดรอยสิว หลุมสิว

การประเมินสภาพผิวและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก หากท่านมีความกังวลใจเกี่ยวกับปัญหาผิวไม่เรียบเนียน และอยากรักษา สามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุของปัญหา เพื่อทำการรักษาได้อย่างตรงจุด

วิธีการป้องกันผิวหน้าไม่เรียบเนียน

เพื่อป้องกันปัญหาผิวไม่เรียบเนียน มาดูวิธีการป้องกันผิวไม่เรียบเนียนที่สามารถทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆ มีดังนี้

1. ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างถูกวิธี

ควรล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนเพื่อขจัดความมันและสิ่งสกปรกบนผิวให้สะอาดหมดจด

2. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวตนเอง

ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด และเหมาะกับสภาพผิวแต่ละประเภท เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หรือผิวผสม

3. ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านอย่าสม่ำเสมอ

ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากแสง UV ซึ่งทำให้ผิวหมองคล้ำและเกิดจุดด่างดำ

4. ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน

ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และขับสารพิษออกจากร่างกาย

5. ทานอาหารที่ประโยชน์ต่อผิว

อาหารที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น วิตามินซีและอี ช่วยบำรุงผิวและต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวสุขภาพดีและเรียบเนียน

ทั้งนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางโดยทันทีหากเกิดความผิดปกติขึ้นกับผิวหน้า เพื่อหาสาเหตุของผิวไม่เรียบเนียน และเลือกวิธีการรักษาได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละบุคคล

ข้อคำถามที่เราพบบ่อย

ผิวหน้าไม่เรียบเนียนรูขุมขนกว้างทำเลเซอร์หายหรือไม่

การทำหัตถการเลเซอร์ลดรูขุมขนกว้าง (Pore Refining Laser) เป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาหน้าไม่เรียบเนียนและรูขุมขนกว้างได้ โดยหลักการทำงานของเซอร์คือ จะสร้างทำลายผิวชั้นบนเพียงเล็กน้อย และกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นใหม่เพื่อฟื้นฟูสภาพผิว ทำให้ผิวกระชับ รูขุมขนเล็กลง และผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น

ผิวหน้าไม่เรียบเนียนเหมือนผิวตัว เพราะสาเหตุอะไร

สามารถเกิดจากหลายสาเหตุ เนื่องจากผิวหน้ามีชั้นผิวที่มีความบอบบางกว่าผิวตัว และมีต่อมไขมันมากกว่าผิวส่วนอื่น จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดการอุดตันของรูขุมขน สิว หรือระคายเคืองได้ง่ายกว่า อีกทั้งผิวหน้ามักสัมผัสกับแสงแดดและมลภาวะบ่อยกว่าผิวตัว ทำให้ผิวหน้าเสี่ยงต่อการเกิดจุดด่างดำ ริ้วรอยได้ง่าย