กดสิวดีไหม ช่วยอะไรบ้าง หลังกดสิวกี่วันรอยถึงหาย?

“การกดสิว” อาจดูเหมือนวิธีแก้ปัญหาสิวที่ง่ายและรวดเร็ว แต่หากทำผิดวิธีอาจทำให้ผิวหน้าอักเสบหรือเกิดหลุมสิวที่ยากจะแก้ไขตามมาได้ การกดสิวอย่างปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรรู้บทความนี้ เราจะพาดูวิธีการกดสิวที่ถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับดูแลผิวหลังการกดสิว เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าผิวหน้าจะไม่พังหลังจากการกดสิว

การกดสิวคืออะไร? ดีไหม?

การกดสิวเป็นวิธีการรักษาสิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะช่วยกำจัดสิวได้อย่างรวดเร็วและทันใจ โดยเฉพาะสิวอุดตัน โดยใช้เครื่องมือเฉพาะที่ออกแบบมาเฉพาะ ซึ่งมีลักษณะเป็นเข็มปลายแหลมสำหรับเจาะหัวสิว และห่วงสำหรับกดสิวให้ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น
การกดสิวที่ถูกวิธีสามารถช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนและลดปัญหาสิวได้ในระยะยาว แต่ถ้ากดสิวผิดวิธี เช่น ใช้มือที่ไม่สะอาดหรือกดแรงเกินไป อาจทำให้เกิดการอักเสบ การติดเชื้อ และรอยแผลเป็นตามมาได้

กดสิว อันตรายไหม?

การกดสิวไม่อันตราย หากทำอย่างถูกวิธีและใช้เครื่องมือที่สะอาด แต่หากกดสิวผิดวิธี เช่น ใช้มือที่ไม่สะอาดหรือกดแรงเกินไป อาจทำให้เกิดการอักเสบ การติดเชื้อ และรอยแผลเป็นตามมาได้

ข้อดี-ข้อเสียของการกดสิว

ข้อดีของการกดสิวช่วยอะไรบ้าง	ข้อเสียหรือความเสี่ยงหากกดสิวผิดวิธี
ช่วยกำจัดหัวสิวที่อุดตันได้ทันที	เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด
ช่วยให้ผิวฟื้นฟูและเรียบเนียนเร็วขึ้น	การกดสิวด้วยน้ำหนักที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดรอยดำ รอยแดง หรือรอยแผลเป็น
ลดความเสี่ยงจากการแพ้ยาและผลข้างเคียงจากการใช้ยา	หากกดสิวออกไม่หมดหรือทำผิดวิธีอาจทำให้สิวอักเสบรุนแรงขึ้น
สิวอักเสบที่มีหัวหรือหนองสามารถหายได้เร็วขึ้น

สิวแบบไหนที่ต้องกดออก

การกดสิวมักจะใช้กับสิวประเภทสิวหัวเปิดและสิวหัวปิดที่หัวสิวโผล่ชัดเจนแล้ว เช่น สิวหัวขาว (Whiteheads) และ สิวหัวดำ (Blackheads)

สิวแบบไหนที่ไม่เหมาะสำหรับการทำ

ควรหลีกเลี่ยงการกด สิวหัวหนอง (Pustules) และ สิวซีสต์ (Cystic acne) ซึ่งลึกและอักเสบมาก เนื่องจากการกดสิวในกรณีนี้จะทำให้สิวยิ่งรุนแรงและอาจเกิดแผลเป็นได้

กดสิวกี่วันหาย?

การกดสิวสามารถทำให้สิวหายภายใน 3-10 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทของสิวและการดูแลหลังการกด โดยสิวหัวขาวและหัวดำมักหายเร็วกว่า ส่วนสิวอักเสบ อาจใช้เวลา 7-10 วัน หรือนานกว่านั้นหากมีการติดเชื้อหรือการระคายเคือง

วิธีการกดสิวที่ถูกต้อง

1. ประเมินสิวที่เหมาะสมในการกด โดยกดเฉพาะสิวหัวเปิด (สิวหัวดำ) หรือสิวหัวขาวที่หัวสิวโผล่ชัดเจน หลีกเลี่ยงการกดสิวอักเสบหรือสิวซีสต์ เพราะอาจทำให้การอักเสบแย่ลง
2. ล้างมือให้สะอาดและทำความสะอาดเครื่องสำอางบนผิวหน้าออกก่อนทำการกดสิว
3. ใช้ที่กดสิวที่ฆ่าเชื้อแล้ว หลีกเลี่ยงการใช้เล็บหรือมือเปล่าในการกด
4. กดอย่างเบามือ หากหัวสิวไม่ออก ไม่ควรฝืนกด เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือบาดเจ็บได้
5. เช็ดบริเวณที่กดสิวด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำเกลือฆ่าเชื้อ

วิธีการเตรียมตัวก่อนทำ

1. ล้างหน้าให้สะอาด: ก่อนเดินทางไปคลินิก ควรล้างหน้าให้สะอาด เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันที่อาจอยู่บนผิวหน้า
2. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า: ควรงดการแต่งหน้าก่อนการกดสิว เพื่อให้เห็นสิวได้อย่างชัดเจน
3. อย่ากดสิวเอง: หากคุณกดสิวหรือสัมผัสผิวหน้าเองก่อนมาถึงคลินิก อาจทำให้เกิดการอักเสบหรือการติดเชื้อได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการกดสิวด้วยตนเอง
4. เลือกคลินิกที่เชื่อถือได้: ควรเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญและมาตรฐานด้านความสะอาด เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องมือและขั้นตอนการรักษาจะปลอดภัย

แนะนำการดูแลตัวเองหลังกด

การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงจากการเกิดแผลเป็น

1. ทำความสะอาดผิวหน้าเบา ๆ : ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรียในรูขุมขน
2. ใช้ยารักษาสิวตามคำแนะนำของแพทย์: เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือ ซาลิไซลิกแอซิด (Salicylic Acid) เพื่อลดการอักเสบและป้องกันการเกิดสิวใหม่
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้า: ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดทับบริเวณที่กดสิว เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือการระคายเคืองเพิ่มเติม
4. ทาครีมบำรุงผิว: ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและฟื้นฟู
5. หลีกเลี่ยงแสงแดด: หลังการกดสิว ผิวหน้าอาจบอบบาง ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง และใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป เพื่อป้องกันรอยดำจากการกดสิว
6. งดแต่งหน้าหลังการกดสิว: ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหลังการกดสิวในระยะเวลา 1-2 วันแรก เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูและหลีกเลี่ยงการอุดตันของรูขุมขน

กดสิว ที่ไหนดี?

สำหรับใครที่กำลังมีคำถามว่ากดสิวที่ไหนดีหรือกดสิวใกล้ๆฉันต้องเลือกอย่างไร ลลิษาคลินิกมีคำแนะนำดังนี้

• คลินิกที่ได้มาตรฐาน: เลือกคลินิกที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
• ความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการ: การกดสิวที่ถูกวิธีโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยลดการอักเสบ การติดเชื้อ และป้องกันการเกิดแผลเป็นได้
• สถานบริการที่สะอาดและปลอดภัย: หากสถานบริการไม่สะอาดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังการกดสิว และการใช้อุปกรณ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อช่วยลดโอกาสเกิดปัญหา เช่น การอักเสบหรือสิวลุกลาม
• มีการประเมินสภาพผิวก่อนกดสิว: การประเมินสภาพผิวโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม เนื่องจากสิวบางชนิด เช่น สิวอักเสบหรือสิวซีสต์ อาจไม่เหมาะกับการกดสิวและควรใช้วิธีอื่นแทน
• รีวิวจากผู้ใช้บริการ: ช่วยทำให้เรามั่นใจในบริการและผลลัพธ์ที่ดีของสถานบริการนั้น ๆ
• ค่าใช้จ่ายเหมาะสม: แม้ราคาจะเป็นปัจจัยสำคัญ แต่คุณภาพและความปลอดภัยควรมาก่อน จึงควรเลือกสถานบริการที่มีราคาสมเหตุสมผล

หากกำลังมองหาสถานที่กดสิวที่ปลอดภัย ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีผู้เชี่ยวชาญดูแล เพื่อป้องกันการอักเสบ รอยแผลเป็น หรือหลุมสิว มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่ ลลิษาคลินิก มีบริการกดสิวและอื่น ๆ ที่สาขาเซ็นทรัลพระราม 9 ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเตรียมผิวก่อนกดสิว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอักเสบ และคำแนะนำในการดูแลผิวหลังการกดสิว เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าการกดสิวจะไม่ทำให้เกิดรอยแผลหรือปัญหาผิวตามมา

กดสิว ราคาเท่าไหร่

กดสิวราคา 120 บาท ที่ลลิษาคลินิก สาขาเซ็นทรัลพระราม 9

FAQ (คำถามที่พบบ่อย)

รอยกดสิว กี่วันหาย?

รอยจากการกดสิวจะหายไปในระยะเวลาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยและการดูแลผิวหลังการกดสิว โดยทั่วไป รอยแดง มักจะหายภายใน 3-7 วัน รอยดำ อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึง 1-2 เดือนในการหาย ขึ้นอยู่กับการรักษาและการป้องกันจากแสงแดด

รอยแดง รอยดำหลังกดสิว ต้องดูแลอย่างไร?

รอยแดงและรอยดำหลังการกดสิวสามารถบรรเทาได้ด้วยการทาครีมที่ช่วยฟื้นฟูผิว เช่น ครีมที่มีวิตามิน C หรือไนอะซินาไมด์ ซึ่งช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ ควรทาครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันรอยแดงและรอยดำจากแสงแดด

กดสิวเองได้ไหม?

ไม่ควรกดสิวเอง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบ และทำให้สิวรุนแรงขึ้น การกดสิวในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดหรือไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือหลุมสิวได้ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือไปคลินิกเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญทำการกดสิวเพื่อความปลอดภัย

กดสิวแล้วทําให้เป็นหลุมจริงไหม?

การกดสิวที่ไม่ถูกวิธีหรือไม่สะอาดอาจทำให้ผิวเกิดความเสียหาย ส่งผลให้เกิดแผลเป็นหรือหลุมสิวได้ โดยเฉพาะกับสิวที่มีการอักเสบมาก การกดสิวที่ผิดวิธีอาจทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังเสียหาย ส่งผลให้เกิดรอยแผลเป็นหรือหลุมสิว

กดสิวแล้วทำไมสิวอักเสบกว่าเดิม?

หลังกดสิวอาจทำให้สิวอักเสบมากขึ้นได้จากการสัมผัสที่ไม่สะอาด การกดสิวอย่างไม่เหมาะสม หรือการกระตุ้นให้เกิดการอักเสบที่รุนแรง การกดสิวอาจทำให้สิวกระจายหรือเกิดการติดเชื้อ จึงควรหลีกเลี่ยงการกดสิวเอง

หลังกดสิวทาครีมได้ไหม?

สามารถทาครีมได้หลังจากการกดสิว แต่ควรเลือกใช้ครีมที่อ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมที่อาจระคายเคือง เช่น มอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมที่ช่วยบรรเทาการอักเสบ ควรหลีกเลี่ยงการทาครีมที่มีส่วนผสมรุนแรง เช่น สารขัดผิวหรือเรตินอยด์ในช่วงแรกหลังการกดสิว เพื่อป้องกันการระคายเคืองเพิ่มเติม