คลินิกรักษาสิว โดยแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ
ฉีดสิวคืออะไร กี่วันยุบ ฉีดบ่อยๆอันตรายไหม รวมข้อควรรู้ก่อนทำ
การฉีดสิวได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการวิธีแก้ปัญหาสิวที่รวดเร็ว การฉีดสิวสามารถลดขนาดของสิวได้อย่างรวดเร็ว แต่การฉีดสิวคืออะไร? มีประสิทธิภาพแค่ไหน? และมีความเสี่ยงอะไรบ้าง? บทความนี้จะตอบทุกคำถามเหล่านี้และอื่นๆ อีกมากมาย
ฉีดสิว ดีไหม?
การฉีดสิวเป็นการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการรักษาสิวบางประเภท เช่น สิวซีสต์หรือสิวหัวช้าง ซึ่งช่วยลดการอักเสบของสิวและเร่งกระบวนการรักษาสิวให้หายไวขึ้น ช่วยให้สิวยุบตัวได้ไวยิ่งขึ้นด้วย
ฉีดสิวคืออะไร
การฉีดสิวเป็นการรักษาสิวที่ใช้การฉีดสารที่มีส่วนผสมหลักเป็นสเตียรอยด์เข้าไปในสิวโดยตรง สเตียรอยด์ช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบลงอย่างรวดเร็ว วิธีการนี้นิยมใช้กับสิวหัวช้างหรือสิวที่มีการอักเสบรุนแรง เนื่องจากการทำขั้นตอนนี้มักใช้เวลาไม่นานและสามารถทำในคลินิกผิวหนังได้ ให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดในระยะเวลาอันสั้น
ขั้นตอนการฉีดสิว
- แพทย์ทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดสิว
- แพทย์จะกำหนดและผสมปริมาณยาหรือสัดส่วนของยากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ที่เหมาะสมสำหรับสิวอักเสบที่จะฉีดซึ่ง การฉีดใช้ยาในแต่ละเม็ดและแต่ละคนจะไม่เท่ากัน
- แพทย์กำหนดตำแหน่งของใบหน้าในจุดที่ฉีด โดยจะมีการใช้ความลึกของการลงเข็มที่แตกต่างกัน
- จากนั้นจะใช้เข็มมียากลุ่มคอร์ติโคสเตียรอยด์ฉีดเข้าไปในเม็ดสิว ขั้นตอนนี้อาจมีเจ็บเล็กน้อย ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาไม่นานและมักใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
- ปิดแผลด้วยผ้าปิดขนิดเล็ก
การทำงานของสเตียรอยด์ในการรักษาสิว
สเตียรอยด์มีฤทธิ์ลดการอักเสบโดยยับยั้งการปล่อยสารเคมีที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดการบวมและรอยแดงที่เกิดจากการอักเสบ การใช้สเตียรอยด์ในปริมาณที่เหมาะสมสามารถลดอาการอักเสบของสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเลือกใช้สเตียรอยด์ในการฉีดสิว
การเลือกใช้สเตียรอยด์ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิวและสภาพผิวของผู้ป่วย แพทย์จะประเมินและเลือกสเตียรอยด์ที่เหมาะสมในการรักษา โดยสเตียรอยด์ที่ใช้ในการฉีดสิวมักจะมีความเข้มข้นต่ำและถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการฉีดเข้าผิวหนังโดยเฉพาะ
ฉีดสิวกี่วันสิวถึงจะยุบ
หลังจากการฉีดสิว สิวจะยุบลงภายใน 24-48 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลและความรุนแรงของสิว บางครั้งอาจใช้เวลานานกว่านั้นในการฟื้นตัวของผิวหลังการฉีด
ใครบ้างที่ควรพิจารณาการฉีดสิว?
บุคคลที่มีสิวรุนแรง เช่น สิวซีสต์หรือสิวหัวช้างที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่น ๆ อาจได้รับประโยชน์จากการฉีดสิวมากกว่าการปล่อยให้เม็ดสิวทิ้งไว้นานๆ จนทำให้เกิดเป็นรอยแผลและหลุมสิวในระยะยาว แต่สิ่งสำคัญคือควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อประเมินว่าการรักษานี้เหมาะสมกับสภาพผิวหรือลักษณะสิวและรอยโรคที่เป็นอยู่หรือไม่
สิวแบบไหนที่ เหมาะกับการฉีดสิว
ลักษณะสิวเหมาะสมสำหรับการรักษาด้วยการฉีด คือ สิวอักเสบที่เป็นถุงใต้ผิวหนัง สิวประเภทนี้มักไม่เห็นหัวสิวและเม็ดสิวยุบยากและมักเป็นมานานหลายวัน และต้องใช้การฉีดเพื่อลดการอักเสบและลดโอกาสเกิดรอยแผล
สิวอักเสบ (Inflammatory Acne ) ที่กล่าวถึงคือสิวประเภท
- สิวซีสต์ เป็น สิวขนาดใหญ่ เจ็บ และอักเสบที่มีหนองอยู่ข้างใน
- สิวหัวช้าง (Cysts/Nodulocystic) ซึ่งเป็นสิวแบบก้อนแข็งใต้ผิวหนังไม่มีหัว ที่อักเสบและมักจะเจ็บปวด
- สิวตุ่มหนอง (Pustules) หรือ สิวตุ่มนูนลึกขนาดใหญ่ (Nodules) มีการอักเสบรุนแรง
สิวประเภทใดที่ไม่เหมาะสำหรับการฉีดสิว
การฉีดสิวไม่เหมาะสำหรับสิวเล็ก ๆ เช่น สิวหัวดำ สิวหัวขาว หรือสิวเล็ก ๆ เพราะสิวประเภทนี้มักไม่ตอบสนองต่อคอร์ติโคสเตียรอยด์ และควรรับการรักษาวิธีอื่นๆ เช่น การทายา การกดสิว เป็นต้น
ฉีดสิวบ่อยๆ เป็นอันตรายไหม
แม้ว่าการฉีดสิวโดยทั่วไปจะเป็นการรักษาที่ปลอดภัย แต่การฉีดสิวอาจมีผลข้างเคียงหากฉีดบ่อยเกินไปหรือฉีดแบบไม่ถูกต้อง ดังนั้นควรขอคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสมอ โดยผลข้างเคียงจากการฉีดสิวบ่อยๆ มีดังนี้
– ผิวบางและแพ้ง่ายขึ้น
– รอยด่างหรือรอยยุบของผิวหนัง
– มีรอบแผลหรือแผลเป็น
– อาการแพ้หรือการติดเชื้อบริเวณที่ฉีด
ผลข้างเคียงของการฉีดสิวมีอะไรบ้าง?
ในเรื่องของผลข้างเคียงหลังการฉีดสิวนั้นสามารถพบได้ๆ บ่อย 2 แบบก็คือผลข้างเคียงแบบทั่วไปที่สามารถพบได้ตามปกติ และผลข้างเคียงในระยะยาว
ผลข้างเคียงทั่วไป
- ปวดเล็กน้อยที่บริเวณที่ฉีด
- ผิวหนังบางลงชั่วคราว
ผลข้างเคียงระยะยาวของสเตียรอยด์
การใช้สเตียรอยด์ในระยะยาวหรือบ่อยครั้งเกินไปสามารถนำไปสู่ผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น
- ผิวหนังบางถาวรหรือการเปลี่ยนสีผิวเกิดเป็นรอยด่างหรือรอยยุบของผิวหนัง
- การเสื่อมสภาพของผิวหนัง
- ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น
ข้อดีและข้อเสียของการฉีดสิว
ข้อดี | ข้อเสีย |
ลดการอักเสบและขนาดของสิวได้อย่างรวดเร็วลดอาการเจ็บที่สิว สามารถป้องกันหรือลดโอกาสการเกิดแผลเป็นหรือรอยหลุมสิวหากได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ | อาจเกิดรอยช้ำมีโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น การบางของผิว หรือรอยบุ๋มของผิวไม่เหมาะสำหรับสิวทุกประเภทแพ้ยาฉีดสิวไม่ทำให้สิวหายขาด อาจเป็นซ้ำๆที่เดิมหากไม่รักษาด้วยวิธีอื่นประกอบด้วย |
รวมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดสิว
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากแพทย์จะสามารถประเมินสภาพผิวและแนะนำการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลได้
- ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ การทำความสะอาดผิวหน้าและบริเวณที่ฉีดสิวก่อนและหลังการฉีดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
- การดูแลหลังการฉีด หลังการฉีดสิว ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดบ่อยๆ และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่แพทย์แนะนำเพื่อช่วยในการฟื้นฟูผิว
- ผลข้างเคียงที่ควรทราบ ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาหรือมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการฉีดสิว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
รวมข้อคำถามพบบ่อยของการฉีดสิว
การฉีดสิวกี่วันจึงเห็นผล?
ผลลัพธ์มักจะเห็นได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง โดยการลดการอักเสบอย่างมาก
สามารถฉีดสิวที่ไม่มีหัวได้ไหม?
ได้ การฉีดสิวสามารถมีประสิทธิภาพสำหรับสิวซีสต์ แม้จะไม่มีหัวให้เห็น
ฉีดสิวบ่อย ๆ เป็นอันตรายไหม?
การฉีดบ่อยเกินไปอาจมีผลข้างเคียง ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับความถี่ในการรักษา
การฉีดสิวเจ็บไหม?
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย เทียบได้กับการโดนเข็มแทงเล็ก ๆ แต่สามารถช่วยลดอาการเจ็บของสิวต่อไปได้
การฉีดสิวต่างจากการกดสิวอย่างไร?
การฉีดสิว: เป็นการฉีดยาเข้าไปในสิวเพื่อลดการอักเสบ
การกดสิว: เป็นการเปิดหัวและกดเอาหัวในสิวออก ซึ่งอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้หากทำไม่ถูกต้อง
ทั้ง 2 วิธีควรทำโดยผู้ที่เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลหรือคลินิกที่มีความสะอาดและได้มาตรฐาน
ฉีดสิว จำเป็นต้องฉีดสิวทุกเม็ดไหม?
ไม่จำเป็นต้องฉีดทุกเม็ด การรักษานี้มักใช้สำหรับสิวอักเสบรุนแรงหรือสิวที่ดื้อยารักษาอื่น ๆ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เนื่องจากแพทย์จะสามารถประเมินสภาพผิวและแนะนำการรักษาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลได้
หลังฉีดสิวสามารถแต่งหน้าได้เลยไหม?
โดยทั่วไปแนะนำให้รออย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนแต่งหน้าบริเวณที่ฉีด
วิธีการเลือกคลินิกสำหรับการฉีดสิว
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลินิกมีชื่อเสียง มีการเปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
- ขั้นตอนการรักษาสิวทุกขั้นตอนควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- มองหาคลินิกที่ใช้เทคนิคที่มีมาตรฐาน ทันสมัยและมีความสะอาด
- ตรวจสอบมีรีวิวจากลูกค้าจริงก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง
สรุป
การฉีดสิวเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบของสิวและการจัดการสิวอักเสบรุนแรง ในระยะเวลาอันสั้น แต่การฉีดบ่อยเกินไปอาจมีผลข้างเคียงที่ควรระวัง ในการป้องกันผลข้างเคียงและรักษาสิวอย่างปลอดภัย ควรทำความเข้าใจถึงประโยชน์ ความเสี่ยง และการดูแลที่ถูกต้อง การใช้สเตียรอยด์ในการรักษาสิวควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ดังนั้นการปรึกษาแพทย์และการดูแลผิวหลังการฉีดเป็นสิ่งสำคัญ
แหล่งอ้างอิง:
– Chiang, C., & Wang, J. (2017). Intralesional corticosteroid injection for the treatment of keloids and hypertrophic scars: A review. Dermatologic Surgery, 43(8), 1002-1010.
– Ortonne, J. P., & Queille-Roussel, C. (2015). Intralesional corticosteroids in the treatment of acne. American Journal of Clinical Dermatology, 16(3), 233-239.
– Zaenglein, A. L., Pathy, A. L., Schlosser, B. J., et al. (2016). Guidelines of care for the management of acne vulgaris. Journal of the American Academy of Dermatology, 74(5), 945-973.e33. DOI: 10.1016/j.jaad.2015.12.037
– Thiboutot, D. M., Dréno, B., Abanmi, A., et al. (2018). Practical management of acne for clinicians: an international consensus from the Global Alliance to Improve Outcomes in Acne. Journal of the American Academy of Dermatology, 78(2 Suppl 1), S1-S23.e1. DOI: 10.1016/j.jaad.2017.09.078
– Darji, K., Varade, R., West, D., Armbrecht, E. S., & Guo, M. A. (2017). Psychosocial impact of postinflammatory hyperpigmentation in patients with acne vulgaris. Journal of Clinical and Aesthetic Dermatology, 10(5), 18-23.