คลินิกรักษาสิว โดยแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ
หลุมสิว มีกี่แบบ รู้สาเหตุ วิธีรักษาอย่างไรให้หน้าเรียบเนียน
หลุมสิวเป็นปัญหาที่กวนใจของใครหลายคน ทำให้ขาดความมั่นใจ หน้าไม่เรียบเนียน ผิวดูไม่สวยงาม หลายคนจึงอยากรู้ว่าการทาครีมอย่างเดียวจะช่วยแก้ปัญหาหลุมสิวได้จริงหรือไม่? บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อข้องใจ พร้อมทั้งอธิบายวิธีการรักษาหลุมสิวที่หลากหลาย เพื่อให้คุณได้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
หลุมสิว เกิดจากสาเหตุอะไร
หลุมสิวเกิดจากการที่สิวอักเสบทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดรอยแผลเป็นแบบเป็นหลุม ซึ่งการกระทำที่อาจทำให้เกิดหลุมสิวได้แก่ การกดหรือบีบสิว ซึ่งเป็นการทำลายผิวหนังเพิ่มเติม หลุมสิวสามารถเกิดขึ้นได้ในบริเวณต่าง ๆ เช่น ที่จมูก แก้ม และบริเวณอื่น ๆ โดยมีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามชนิดของหลุมสิว
หลุมสิว คืออะไร
หลุมสิว หรือ (Acne Scars) คือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวอักเสบ ที่เมื่อสิวยุบตัวลง ผิวหนังชั้นในจะไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้เต็มที่ จึงเกิดเป็นหลุมเล็ก ๆ บนผิวหน้า จึงทำให้ผิวขาดความเรียบเนียนและพบในผู้ที่มีสิวอักเสบรุนแรง เช่น สิวหัวช้าง เป็นต้น
หลุมสิวมีกี่ประเภท
หลุมสิวมีกี่แบบ? หลุมสิวเกิดจากหลายสาเหตุ และมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหลัก ๆ แล้วจะแบ่งได้เป็น 3 แบบ ดังนี้
หลุมสิวประเภท Rolling Scar
เป็นหลุมสิวที่พบได้บ่อยที่สุด มีลักษณะคล้ายแอ่งตื้น ๆ เหมือนมีเชือกดึงผิวหนังให้ยุบลงไป ส่วนใหญ่เกิดจากสิวอักเสบที่ไม่รุนแรงมาก
หลุมสิวประเภท Ice Pick Scar
หลุมสิว Ice Pick Scar เหมือนรอยเจาะลงไปในผิวหนัง ลึกและแคบ เกิดจากการบีบสิวหรือกดสิวแรง ๆ จนทำให้เยื่อผิวหนังเสียหาย
หลุมสิวประเภท Box Scar
หลุมสิว Box Scar มีลักษณะเป็นหลุมตื้น ๆ แต่ขอบหลุมชัดเจน เหมือนกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ส่วนใหญ่เกิดจากสิวอักเสบรุนแรง หรือรอยแผลจากอีสุกอีใส
ลักษณะของหลุมสิวเป็นอย่างไร
รอยแผลเป็นที่เกิดจากการอักเสบของสิว ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นบุ๋มลงไป เกิดเป็นรอยบุ๋มที่ทำให้ผิวหน้าขาดความเรียบเนียน ดูขรุขระ และส่งผลต่อความมั่นใจ ซึ่งหลุมสิวจะมีลักษณะ ดังนี้
- ผิวขรุขระ ไม่เรียบเนียน เมื่อสัมผัสผิวหน้า จะรู้สึกได้ถึงความไม่เรียบเนียน มีรอยบุ๋มเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่วไป
- รอยบุ๋ม: มีหลุมเล็ก ๆ ลึกลงไปในผิวหนัง เมื่อมองดูจะเห็นเป็นรอยบุ๋มชัดเจน
- หลุมอาจมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกัน บางหลุมอาจเล็กและตื้น บางหลุมอาจใหญ่และลึก บางหลุมอาจมีรูปร่างเป็นวงกลม หรือไม่เป็นรูปร่าง
- สีผิวบริเวณหลุมอาจแตกต่างจากผิวรอบข้าง บางครั้งบริเวณหลุมสิวอาจมีสีเข้มกว่าหรือจางกว่าผิวปกติ
วิธีรักษาหลุมสิว บอกลาผิวเปลือกส้ม
หลุมสิวรักษายังไง รักษาได้ไหม? ปัจจุบันมีวิธีรักษาหลุมสิวให้เลือกมากมาย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถวิเคราะห์ชนิดของหลุมสิวของคุณ และเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์ หรือเทคนิคอื่น ๆ ที่จะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นได้อย่างเห็นผล ดังนี้
การใช้กรดลอกผิว (Chemical Peeling)
กระบวนการลอกผิวด้วยกรด จะช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ซึ่งเป็นชั้นที่ตายแล้วและเสื่อมสภาพ ทำให้เซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงขึ้นมาแทนที่ ส่งผลให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้นและลดเลือนรอยแผลเป็นได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกชนิดของกรดและความเข้มข้นที่เหมาะสมนั้นมีความสำคัญมาก หากใช้กรดเข้มข้นเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ผิวไหม้ และแผลเป็นได้ ควรอยู่ใต้ความดูแลของแพทย์ผิวหนัง
การกรอหลุมสิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion)
การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีเป็นการขัดผิวเบา ๆ เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ทำให้ผิวดูสดใสขึ้น วิธีนี้ใช้เวลารักษาตัวน้อยกว่าการลอกผิวแบบอื่น ๆ และยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย
การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ฟิลเลอร์หลุมสิว คือ การใช้สารเติมเต็มอย่างไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปในหลุมสิว เพื่อเติมเต็มให้หลุมสิวตื้นขึ้น ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่มีหลุมสิวแบบ Box Scar หรือแบบ Rolling Scar โดยจะเห็นผลได้ทันทีหลังทำ
การผ่าตัดหลุมสิว (Excision)
ในกรณีของหลุมสิวแบบ Ice Pick Scar ที่มีลักษณะลึกและรักษายาก ซึ่งการผ่าตัดเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้โดยตรง ด้วยการตัดส่วนที่เป็นหลุมสิวออกไปและเย็บผิวให้กลับมาติดกัน ช่วยปรับปรุงสภาพผิวให้เรียบเนียน หมดปัญหาหลุมสิวและรูขุมขนกว้างไปพร้อมกัน
การทำ Pico laser หลุมสิว
Pico laser ทำงานโดยการยิงลำแสงพลังงานสูงลงไปในผิวหนังชั้นลึก ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้น ซึ่งเลเซอร์จะทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถลดเลือนรอยดำ รอยแดงจากสิวได้อีกด้วย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวและรอยสิวร่วมกัน
การทำ Fractional RF
Fractional RF คือเทคโนโลยีที่ส่งคลื่นวิทยุลงสู่ผิวหนัง ทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างล้ำลึก ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย
การแต้มกรดบริเวณแผลเป็นหลุมสิว (TCA CROSS)
TCA CROSS คือ เทคนิคการแต้มกรดเพื่อแก้ปัญหาหลุมสิวโดยเฉพาะ ซึ่งแพทย์จะใช้กรด TCA เข้มข้นสูง แต้มตรงลงไปในหลุมสิว เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น เรียบเนียนขึ้น เหมาะกับหลุมสิวแบบจิกและแบบ Box Scar โดยเฉพาะ เพราะเทคนิคนี้ต้องอาศัยความชำนาญสูงมาก ดังนั้น การเลือกคลินิกและผู้เชี่ยวชาญจึงสำคัญมากเช่นกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย
การตัดเซาะพังผืด Subcision หลุมสิว
Subcision เป็นเทคนิคการรักษาหลุมสิวโดยการใช้เข็มขนาดเล็กสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เพื่อตัดพังผืดที่ยึดหลุมสิวเอาไว้ เมื่อตัดพังผืดออกแล้ว หลุมสิวจะยกตัวขึ้น และร่างกายจะสร้างคอลลาเจนใหม่มาเติมเต็มช่องว่าง ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีหลุมสิวแบบ Rolling Sca และแบบ Boxscar Scar ซึ่งเป็นหลุมสิวที่มีฐานกว้างและบุ๋มลึก
การฉีด Sculptra รักษาหลุมสิว
Sculptra เป็นสารที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน อีลาสติน และไฮยาลูรอนิกรด ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ทำให้ผิวแข็งแรงและอ่อนเยาว์ เมื่อฉีดเข้าสู่ผิว สาร Sculptra จะไปกระตุ้นให้เซลล์ผิวทำงานมากขึ้น ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนานถึง 2 ปี ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นและผิวดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งผลลัพธ์จะดีขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ เช่น การตัดพังผืดหลุมสิวและการทำเลเซอร์
วิธีป้องกันการเกิดหลุมสิว
การดูแลผิวให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญมากในการป้องกันปัญหาหลุมสิวที่อาจตามมา สามารถทำตามวิธีดังต่อไปนี้
- ล้างหน้าให้สะอาดเป็นประจำทุกวันด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิว เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางที่อาจอุดตันรูขุมขน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ เพราะมือของเราอาจนำเชื้อโรคมาสู่ผิวหน้าได้
- ลดการทานอาหารมัน ๆ ทอด ๆ และหวานจัด เพิ่มผักผลไม้เข้าไปในมื้ออาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนและผิวพรรณแข็งแรง
- เมื่อมีสิว ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง ห้ามบีบหรือแกะสิวเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นและหลุมสิวได้
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์เป็นตัวการทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวอ่อนแอและเสี่ยงต่อการเกิดหลุมสิว
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เพื่อให้ผิวแข็งแรงและลดโอกาสการเกิดสิว
เมื่อมีหลุมสิวควรดูแลผิวอย่างไรดี
การดูแลผิวเมื่อมีหลุมสิว นั้นสำคัญมาก เพราะนอกจากจะช่วยลดความเห็นได้ชัดของหลุมสิวแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
- ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว หลีกเลี่ยงการขัดถูผิวหน้าแรงๆ เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบและเกิดรอยแดงได้
- บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิว เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและดูอิ่มน้ำ
- ทากันแดดทุกวัน แสงแดดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หลุมสิวดูเด่นชัดขึ้น ควรทากันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV
- หลีกเลี่ยงการแกะเกาสิว การแกะเกาสิวจะทำให้สิวอักเสบมากขึ้น และอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นหรือหลุมสิวเพิ่มขึ้นได้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ และโปรตีน ช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรงและมีสุขภาพดี
- พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายได้ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย
- ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หากหลุมสิวของคุณมีอาการรุนแรง หรือไม่ตอบสนองต่อการดูแลผิวเอง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม
หลุมสิว รักษาที่ไหนดี
การเลือกคลินิกรักษาหลุมสิวนั้นสำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องกับใบหน้าของเราโดยตรง ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สะท้อนบุคลิกภาพ ดังนั้นการเลือกคลินิกที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นที่พอใจและปลอดภัย ต่อไปนี้คือเกณฑ์สำคัญที่คุณควรพิจารณาในการเลือกคลินิก
- ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง: ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรงในการรักษาหลุมสิว เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะเข้าใจถึงปัญหาและสามารถเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและชนิดของหลุมสิวของคุณได้อย่างแม่นยำ
- ประสบการณ์: แพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษาหลุมสิวมามาก จะมีความเข้าใจในเทคนิคต่าง ๆ และสามารถแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ดีกว่า
- การให้คำปรึกษา: แพทย์ควรให้คำปรึกษาอย่างละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของหลุมสิว วิธีการรักษาที่เหมาะสม และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- เทคโนโลยีที่ทันสมัย: คลินิกที่ดีควรมีเทคโนโลยีในการรักษาหลุมสิวที่ทันสมัย เช่น เลเซอร์ชนิดต่าง ๆ ที่มีความปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดี
- เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน: เครื่องมือที่ใช้ในการรักษาควรได้รับการรับรองมาตรฐาน และมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ความสะอาดของคลินิก: คลินิกควรมีสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปลอดเชื้อ และเป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์
- ความปลอดภัย: ควรตรวจสอบว่าคลินิกมีการปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยในการทำหัตถการต่าง ๆ หรือไม่
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
หลุมสิวสามารถหาย 100% ได้หรือไม่?
การรักษารอยหลุมสิวให้หายสนิท 100% นั้นเป็นไปได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของหลุมสิวแต่ละแบบ ซึ่งหลุมสิวขนาดเล็กและตื้นมักมีโอกาสหายสนิทได้มากกว่า โดยใช้วิธีการทางการแพทย์ เช่น เลเซอร์ หรือการเติมฟิลเลอร์ แต่สำหรับหลุมสิวขนาดใหญ่และลึก ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่สมบูรณ์แบบ 100% แต่จะช่วยให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียนขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัด การเลือกวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ
ทำไมบางคนไม่เป็นหลุมสิว?
สาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมสิวโดยตรงคือการเกิดสิวอักเสบซ้ำ ๆ บริเวณเดิม ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นได้รับความเสียหายและเกิดพังผืดขึ้นมา พังผืดเหล่านี้จะดึงรั้งผิวหนังให้ยุบลงจนเกิดเป็นหลุมสิว
หลุมสิวหายเองได้ไหม?
หลุมสิวไม่สามารถหายเองได้ เนื่องจากมีพังผืดยึดติดอยู่ลึกในผิวหนัง ทำให้เกิดรอยบุ๋มลึก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีการทางการแพทย์ เช่น การทำเลเซอร์หลุมสิว หรือการตัดพังผืด
การทาครีมช่วยรักษาให้ตื้นขึ้นได้หรือไม่?
รักษาหลุมสิวเองด้วยการใช้สกินแคร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกผลัดเซลล์ผิวหรือกระตุ้นคอลลาเจน ก็ไม่สามารถช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ เพราะหลุมสิวเป็นปัญหาที่เกิดจากการขาดหายไปของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ซึ่งสกินแคร์ทั่วไปไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาได้ นอกจากนี้ การใช้สกินแคร์บางชนิดอย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้ผิวแห้ง ลอก หรือบางลง จนอาจเกิดปัญหาสิวซ้ำเติมได้อีกด้วย
บีบสิวเม็ดเล็กๆ จะทำให้เกิดหลุมสิวไหม?
การบีบสิวทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นสิวเม็ดเล็กหรือเม็ดใหญ่ ล้วนมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดหลุมสิวได้ทั้งสิ้นค่ะ เพราะการบีบสิวจะทำให้เกิดการอักเสบและการติดเชื้อมากขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังเสียหาย และเมื่อสิวหายไปก็อาจทิ้งรอยแผลเป็นหรือหลุมสิวไว้ได้
สิวแบบไหนที่มักจะทำให้เกิดหลุมสิว?
สิวที่มักจะทำให้เกิดหลุมสิวได้แก่ สิวอักเสบ สิวที่ถูกบีบหรือแกะ สิวที่เกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม
Vitamin C ช่วยรักษาหลุมสิวได้ไหม?
วิตามินซี มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและเรียบเนียนขึ้น ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซีจึงช่วยลดเลือนรอยแดง รอยดำจากสิว และช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถรักษาหลุมสิวได้โดยตรง
หน้าเป็นหลุมสิวเยอะมาก เพราะสาเหตุอะไร แก้ยังไงดี?
หลุมสิวเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรม การดูแลผิวที่ไม่ถูกวิธี เช่น การบีบสิว การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม หรือแม้แต่การรักษาสิวที่ไม่ถูกต้องก็อาจเป็นสาเหตุได้ สิวอักเสบรุนแรงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดหลุมสิวได้ง่ายขึ้น การรักษาหลุมสิวมีหลายวิธี เช่น การใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน การเติมฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มร่องลึก การทำ subcision เพื่อตัดพังผืด หรือการผลัดผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ การเลือกวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงและชนิดของหลุมสิว ดังนั้นหากคุณมีปัญหาเรื่องหลุมสิว ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ
สรุป
หลุมสิวเป็นรอยแผลเป็นที่เกิดจากการที่ผิวหนังชั้นในถูกทำลายหลังจากสิวอักเสบ มีหลุมสิว 3 ประเภทหลัก ได้แก่ Rolling Scar, Ice Pick Scar และ Box Scar ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจและความเรียบเนียนของผิวหน้า ซึ่งการรักษาหลุมสิวสามารถทำได้ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่หลากหลาย เช่น เลเซอร์ Fractional CO2, Subcision, Filler, และ TCA Cross โดยการเลือกวิธีรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของหลุมสิว อย่างไรก็ตาม การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ การหลีกเลี่ยงการบีบสิว และการปรึกษาแพทย์ผิวหนังเป็นประจำจะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดหลุมสิว
แหล่งอ้างอิงเกี่ยวกับข้อมูลหลุมสิว
mayoclinic. From Lawrence E. Gibson, M.D.
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/acne/expert-answers/acne-scars/faq-20058101
clevelandclinic.Medically Reviewed. Last reviewed on 06/23/2020.
https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/21222-acne-scars
บทความโดย
ลลิษาคลินิก : คลินิกรักษาสิว ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง (ตจวิทยา) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาผิว
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้า เป็นสิว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวหนังที่ลลิษาคลินิกได้ ฟรี!! ที่ตั้งคลินิก เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น 9 (ติดบันไดเลื่อน)