15 วิธีรักษารอยสิว ลดรอยดำรอยแดงจากสิว ให้ดีและจางเร็วขึ้น

treatmentacnescar

รอยสิวรอยดำรอยแดงจากสิวเป็นปัญหาผิวที่เกิดขึ้นหลังจากสิวยุบตัวลง โดยเฉพาะสิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นตุ่มแดงและมีหนอง เมื่อหายแล้วจึงมักทิ้งรอยดำช้ำไว้ ไม่ว่าจะเป็นรอยสิวที่หน้า รอยสิวที่หลัง รอยสิวเต็มหน้า หรือรอยสิวที่คาง หากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสมในช่วงที่เกิดสิวและหลังสิวยุบ อาจทำให้รอยดำรอยแดงชัดเจนยิ่งขึ้นและใช้เวลาในการรักษามากขึ้น

การรักษารอยสิว รอยดำและรอยแดงจากสิวให้ได้ผลจริงนั้นมีหลากหลายวิธีและความเหมาะสมกับแต่ละบุคคลแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความรุนแรงของรอย ในบทความนี้ลลิษาคลินิกจะพูดถึงวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเห็นผลจริง

รอยสิวเกิดจากอะไร?

รอยสิวเกิดจาก

รอยสิวเกิดจากการอักเสบของสิวที่ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังถูกทำลาย หลังจากสิวหายร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาแทนที่ แต่ผิวหนังอาจไม่เรียบเนียนเหมือนเดิมและมีสีผิวที่คล้ำขึ้นทำให้เกิดรอยสิวขึ้นนั่นเอง

รอยสิวคืออะไร? มีกี่ประเภท?

รอยสิวคือ มีกี่ประเภท

รอยสิวคือร่องรอยบนผิวหนังของสิวหายไป โดยทั่วไปมีสามประเภทหลักคือ

  1. รอยแดง (Post-Inflammatory Erythema): มักเกิดจากการอักเสบของสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบหรือสิวหัวหนอง
  2. รอยดำ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation): เกิดจากการผลิตเมลานินที่มากขึ้นในบริเวณที่เคยมีการอักเสบ รอยดำจะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น
  3. รอยหลุมสิว (Acne Scar): เป็นรอยแผลที่เกิดจากการทำลายผิวหนังจากการอักเสบของสิวในระยะยาว โดยเฉพาะสิวอักเสบ

15 วิธีรักษารอยสิว ลดรอยดำ รอยแดง

เราได้รวบรวม 15 วิธีรักษารอยดำรอยแดงจากสิว รอยสิวฝังลึก ที่ทั้งง่ายและได้ผล ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผิวด้วยวิธีผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หรือวิธีรักษารอยดำรอยแดงและรอยสิวฝังลึกที่หายยากด้วยเลเซอร์

  1. การใช้เซรั่มวิตามินซี
    วิตามินซีมีคุณสมบัติช่วยลดเลือนรอยดำและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูสว่างใสและเรียบเนียนขึ้น
  2. การใช้กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid)
    ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสขึ้น เป็นการรักษาที่ไม่รุนแรงและทำได้ที่บ้าน
  3. การใช้เรตินอยด์ (Retinoids)
    ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และลดเลือนรอยดำ เป็นที่นิยมในทางการแพทย์
  4. การใช้ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide)
    ช่วยลดการอักเสบและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ สามารถใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้
  5. การทำทรีทเมนต์ด้วยสารเคมี (Chemical Peels)
    ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและส่งเสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดเลือนรอยดำและทำให้ผิวดูเรียบเนียน
  6. ใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป
    การปกป้องผิวจากรังสี UV เป็นสิ่งสำคัญ เพราะแสงแดดสามารถทำให้รอยดำเข้มขึ้น ครีมกันแดดที่มี SPF ช่วยปกป้องผิวและลดความเสี่ยงในการเกิดรอยดำใหม่
  7. Fractional Laser
    Fractional Laser เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่และผลัดเซลล์ผิวเก่า ช่วยลดเลือนทั้งรอยดำและรอยแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการรักษารอยหลุมและรอยแผลเป็นจากสิว
  8. Q-Switched Nd:YAG Laser
    นี่คือเลเซอร์ที่เหมาะสำหรับการรักษารอยดำโดยเฉพาะ เนื่องจากสามารถทำลายเม็ดสีเมลานินในผิวหนังได้อย่างเฉพาะเจาะจง ทำให้รอยดำจางลงอย่างรวดเร็ว
  9. Pulsed Dye Laser (PDL)
    PDL เป็นเลเซอร์ที่มีความสามารถในการลดรอยแดงจากสิว โดยการใช้พลังงานแสงในการปิดหลอดเลือดเล็ก ๆ ที่เกิดการอักเสบ ทำให้รอยแดงจางลง
  10. IPL (Intense Pulsed Light)
    เทคโนโลยีแสงที่มีความเข้มข้นสูงนี้สามารถปรับสภาพสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนรอยแดงและรอยดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  11. CO2 Laser
    ใช้ในการรักษารอยหลุมและรอยแผลเป็นที่ลึก CO2 Laser ทำงานโดยการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
  12. Erbium YAG Laser
    คล้ายกับ CO2 Laser แต่มีความอ่อนโยนกว่าต่อผิว เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบาง ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนรอยแผลเป็น
  13. Picosecond Laser
    เลเซอร์ที่ใช้พัลส์แสงที่มีความเร็วสูงเพื่อลดรอยดำและเม็ดสีที่ผิดปกติ ทำให้ผิวดูสว่างใสขึ้น
  14. Diode Laser
    ช่วยลดการอักเสบและรอยแดง โดยการทำลายต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันเกิน ทำให้สิวลดลงและผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  15. Vbeam Laser
    เลเซอร์ vbeam มีประสิทธิภาพในการลดรอยแดงและรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย

วิธีการป้องกันรอยสิว

วิธีการป้องกัน
  1. หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว: เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอย
  2. ใช้ครีมกันแดด: เพื่อป้องกันไม่ให้รอยเข้มขึ้นจากการถูกแสงแดด
  3. รักษาความสะอาดของผิว: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน
  4. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง: เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

รอยสิวกี่วันหาย?

ระยะเวลาที่รอยสิวจะหายขึ้นอยู่กับประเภทของรอยสิว รอยแดง มักใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือน แต่ถ้ารอยแดงฝังลึก อาจนานกว่านั้น ส่วนรอยดำ โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน หากปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติ ส่วนหลุมสิว ไม่สามารถหายเอง จำเป็นต้องใช้การรักษาเฉพาะทาง เช่น เลเซอร์หรือ Microneedling

รอยสิวไม่หายสักที เพราะสาเหตุอะไร แก้ยังไงดี?

รอยสิวไม่หายสักทีอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การบำรุงผิวไม่เหมาะสม, แสงแดดและรังสี UV, การปล่อยให้สิวอักเสบลุกลามจนทำให้เกิดรอยสิวฝังลึก
สามารถแก้ไขได้โดยการทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไปก่อนออกแดด, ใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยสิว เช่น AHA, BHA, วิตามินซี หรือไนอะซินาไมด์ หรือหากยังไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษาเฉพาะ เช่น เลเซอร์ลดรอยแดง

วิธีไหนสามารถรักษารอยสิว ลดรอยดำรอยแดงจากสิวให้หายได้เร็วที่สุด?

เลเซอร์ Pico (Pico Laser) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในการรักษารอยสิว ทั้งรอยดำและรอยแดง โดยเลเซอร์ Pico จะส่งพลังงานที่ละเอียดและแม่นยำเข้าไปในชั้นผิว ช่วยลดเม็ดสีเมลานินที่ทำให้เกิดรอยดำ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเซลล์ผิว เห็นผลเร็วตั้งแต่ครั้งแรก และช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นอย่างชัดเจน

รักษารอยสิวหายแล้ว เป็นซ้ำอีกรอบได้ไหม?

รอยสิวสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้หากยังมีปัจจัยกระตุ้น เช่น การเกิดสิวใหม่, การบีบหรือกดสิว, หรือไม่ได้ป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างเหมาะสม

รอยสิวจากสิวอักเสบเป็นอย่างไร?

รอยสิวจากสิวอักเสบเป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการอักเสบของสิว เช่น สิวหัวหนองหรือสิวซีสต์ ซึ่งมักสร้างความเสียหายต่อผิวหนังและทำให้เกิดรอยที่เห็นได้ชัดเจน อาจเกิดขึ้นได้ทั้งลักษณะเป็นรอยแดงและรอยดำ หากการอักเสบมีความรุนแรงจนทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิว อาจส่งผลให้เกิดหลุมสิว แผลลึกหรือรอยบุ๋มได้

รอยดำจากสิวคือแผลเป็นหรือไม่?

รอยดำจากสิวและแผลเป็นจากสิวเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน เพราะรอยดำจากสิวเกิดจากการผลิตเมลานินมากขึ้นหลังจากการอักเสบของสิว มักปรากฏเป็นจุดหรือรอยคล้ำบนผิวหนัง แต่แผลเป็นจากสิวเกิดจากการเสียหายของเนื้อเยื่อผิวหนังจากสิวที่อักเสบมาก โดยมักเป็นหลุมหรือรอยนูน

รอยสิวจะจางหายไปเองได้หรือไม่?

รอยดำจากสิวอาจจางลงได้เองแต่จะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง โดยหากไม่ดูแลให้ดีนั้นอาจจะทำให้รอยมีสีที่ชัดหรือเข้มขึ้น

ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเมื่อไหร่?

หากรอยสิวไม่ดีขึ้นหลังจากการรักษาด้วยตนเองหรือหากมีภาวะการอักเสบหรือมีแผลจากสิวที่รุนแรงสามารถเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ

สรุป

การรักษารอยสิวสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น ครีมลดรอยสิว หรือเรตินอยด์ รวมถึงการป้องกันรอยใหม่ด้วยครีมกันแดด สำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว สามารถเลือกวิธีเฉพาะทาง เช่น เลเซอร์ Pico, หรือ Chemical Peeling ซึ่งช่วยลดรอยสิวฝังลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การปรึกษาแพทย์ผิวหนังจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะแพทย์จะช่วยประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดและแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสม

แหล่งอ้างอิงเกี่ยวกับข้อมูล

By Hei Sung Kim, Stamatis Gregoriou.2022 May 12.
https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC9147527/

medicalnewstoday.Cynthia Cobb,APRN, WHNP-BC, DNP, FAANP.June 18, 2024.Jon Johnson.
https://www.medicalnewstoday.com/articles/324784

บทความโดย

ลลิษาคลินิก : คลินิกรักษาสิว ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง (ตจวิทยา) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาผิว

ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้า เป็นสิว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวหนังที่ลลิษาคลินิกได้ ฟรี!! ที่ตั้งคลินิก เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น 9 (ติดบันไดเลื่อน)