คลินิกรักษาสิว โดยแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ
สิวผดกับสิวอุดตันต่างกันยังไง? รักษายังไงให้ไม่กลับมาเป็นซ้ำ

“สิวผดกับสิวอุดตันต่างกันยังไง” คำถามที่หลายคนสงสัยแต่ยังแยกไม่ออกสักที หลายคนเข้าใจผิดว่าสิวทุกชนิดเหมือนกัน เพราะสิวทั้งสองชนิดมักเกิดบริเวณเดียวกันและหน้าตาคล้ายกันจนทำให้รักษาผิดวิธีโดยไม่รู้ตัว
บทความนี้หมอจะพามาแยกความแตกต่างของสิวผดกับสิวอุดตันอย่างละเอียด พร้อมแนะนำแนวทางการดูแลที่ถูกต้อง บอกลาสิวและกลับมามีผิวที่เรียบเนียนกระจ่างใสได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง!
ทำความรู้จัก! สิวผดกับสิวอุดตัน
สิวผด คืออะไร

สิวผด คือสิวลักษณะเป็นตุ่มเม็ดเล็ก ๆ มักขึ้นเป็นกลุ่มบริเวณหน้าผาก แก้ม หรือคาง โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนหรือหลังออกกำลังกาย และมีอาการคันร่วมด้วย
- ลักษณะของสิวผด: สิวผดเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีแดงหรือสีเดียวกับผิว มักขึ้นเป็นกลุ่มบริเวณหน้าผาก แก้ม หรือคาง ไม่มีหัวชัด ไม่เจ็บ แต่อาจคันหรือระคายเคือง และมักเห่อมากขึ้นเมื่อเจอความร้อนหรือความชื้น
- สาเหตุของสิวผด: สิวผดไม่ได้เกิดจากการอุดตัน แต่สาเหตุหลักมาจากการเจริญเติบโตมากเกินไปของเชื้อรามาลัสเซสเซีย (Malassezia) บนผิวหนัง ซึ่งถูกกระตุ้นด้วยความร้อน ความชื้น และไขมันส่วนเกิน นอกจากนี้ในบางกรณีอาจเกิดจากการสะสมของเหงื่อและน้ำมันที่ระคายเคืองผิว
สิวอุดตัน คืออะไร

สิวอุดตัน คือสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนโดยไขมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และสิ่งสกปรก ซึ่งมักไม่อักเสบในระยะแรก และสามารถพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้หากติดเชื้อแบคทีเรีย
- ลักษณะของสิวอุดตัน: สิวอุดตันมักมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง ไม่แดง ไม่เจ็บ และไม่มีการอักเสบ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ สิวหัวดำ และ สิวหัวขาว
- สาเหตุของสิวอุดตัน: เกิดจากการผลิตน้ำมันมากเกินไป การผลัดเซลล์ผิวผิดปกติ การใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน รวมถึงปัจจัยฮอร์โมนและความเครียด
สิวผดกับสิวอุดตันต่างกันยังไง

แม้จะดูคล้ายกันจนหลายคนสับสน แต่ สิวผด และ สิวอุดตัน มีสาเหตุ อาการ และลักษณะที่แตกต่างกัน ดังนี้
- สิวผด มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ไม่มีหัวสิวชัดเจน หากลูบจะรู้สึกสากและผิวไม่เรียบเนียน มักเห่อแดงและคันเมื่อถูกกระตุ้นจากมลภาวะ แสงแดด หรือความร้อน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการแพ้หรือระคายเคืองปัจจัยภายนอก เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นบ่อย ๆ การเช็ดถูหน้ารุนแรง หรือการใช้เครื่องสำอางและอุปกรณ์แต่งหน้าที่ไม่สะอาด ทำให้เชื้อราบนผิวเจริญเติบโตมากผิดปกติจนเกิดการอักเสบเป็นผื่นสิวผด
- สิวอุดตัน แบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ สิวอุดตันหัวปิด ซึ่งมีรากสิวลึก กดออกยาก และมีโอกาสลุกลามกลายเป็นสิวอักเสบสูง และ สิวอุดตันหัวเปิด ที่เห็นเป็นจุดดำบนผิว สาเหตุของสิวอุดตันเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน เช่น การใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสม การล้างหน้าไม่สะอาด หรือผิวผลิตน้ำมันมากเกินไป เมื่อน้ำมันและสิ่งสกปรกสะสมจะทำให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวอุดตันได้ง่ายขึ้น
การเข้าใจความแตกต่างระหว่างสิวผดกับสิวอุดตันได้ชัดเจน จะช่วยให้คนไข้เลือกวิธีดูแลและรักษาได้ตรงจุดมากขึ้น ทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง เรียบเนียน และลดโอกาสสิวขึ้นซ้ำได้ในระยะยาว
สิวผด สิวอุดตัน ใช้อะไรดี?
เมื่อเข้าใจความแตกต่างของสิวผดกับสิวอุดตันแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกผลิตภัณฑ์และวิธีดูแลที่เหมาะสมกับสิวแต่ละประเภท เพื่อให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- สำหรับสิวผด แนะนำใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอักเสบและควบคุมเชื้อรา เช่น ครีมหรือยาที่มีสารต้านเชื้อรา รวมถึงหลีกเลี่ยงความร้อนและความชื้น การใช้สบู่อ่อนโยนและหลีกเลี่ยงการขัดถูแรง ๆ จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- สำหรับสิวอุดตัน ควรเน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) หรือเรตินอยด์ (Retinoids) ที่ช่วยเปิดรูขุมขนและลดการสะสมของไขมัน นอกจากนี้ควรทำความสะอาดหน้าอย่างอ่อนโยนและหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน
แนวทางดูแลรักษาสิวผดเบื้องต้น

การดูแลสิวผดที่ถูกต้องจะช่วยลดการระคายเคืองและป้องกันไม่ให้สิวลุกลาม โดยหมอแนะนำแนวทางเบื้องต้น ดังนี้
- หยุดแกะหรือบีบสิวผด
การสัมผัส แกะ หรือบีบสิวจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบ ติดเชื้อ และทำให้เกิดรอยสิวหรือแผลเป็นตามมาได้ - ล้างหน้าอย่างอ่อนโยนและถูกวิธี
ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารระคายเคือง และอาจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid, Benzoyl peroxide หรือ Sodium sulfacetamide ช่วยลดการเกิดสิว - หลีกเลี่ยงความเครียด
ความเครียดกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดสิว จึงควรหาวิธีผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ - ผลัดเซลล์ผิวอย่างเหมาะสม
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี AHA หรือ BHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันในรูขุมขนได้ แต่ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวบางและระคายเคืองได้ - เลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิว
ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) และทดสอบการแพ้ก่อนใช้งาน
แนวทางดูแลรักษาสิวอุดตันเบื้องต้น

หลังจากที่เราได้รู้แนวทางดูแลสิวผดเบื้องต้นกันไปแล้ว คราวนี้มาทำความเข้าใจการดูแล “สิวอุดตัน” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาผิวที่พบบ่อย ว่าควรเริ่มดูแลอย่างไรให้ถูกวิธีตั้งแต่ต้น
- ล้างหน้าให้สะอาดแต่ไม่ล้างบ่อยเกินไป
ใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน วันละ 2 ครั้ง เช้า–เย็น หลีกเลี่ยงการล้างหน้าบ่อยหรือถูแรง เพราะจะกระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น - ใช้ผลิตภัณฑ์ช่วยลดสิวอุดตัน
เลือกเวชสำอางที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid, Retinoids หรือ Benzoyl peroxide เพื่อช่วยละลายการอุดตัน ผลัดเซลล์ผิว และลดการเกิดสิวใหม่ - ควบคุมความมันส่วนเกิน
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตร Oil-Free และเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน - หลีกเลี่ยงพฤติกรรมกระตุ้นสิว
งดบีบสิว ล้างอุปกรณ์แต่งหน้าให้สะอาด และหลีกเลี่ยงการจับใบหน้าโดยไม่จำเป็น - ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
นอนหลับให้เพียงพอ ลดความเครียด ดื่มน้ำมาก ๆ และเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือของมัน
รักษาสิวผด สิวอุดตัน ราคาเท่าไหร่
ราคาการรักษาสิวผดและสิวอุดตันทั่วไปในคลินิกจะเริ่มต้นประมาณ 300-1,500 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับวิธีการรักษาและความรุนแรงของสิว ที่ ลลิษาคลินิก มีโปรแกรมรักษาหลากหลาย ทั้งกดสิว ฉีดสิว และทรีตเมนต์ เริ่มต้นเพียง 100 บาท และตอนนี้มีโปรโมชั่นครั้งแรกตรวจประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ฟรี!
สรุป: เรื่องสิวผดกับสิวอุดตัน

สิวผดและสิวอุดตันแม้จะดูคล้ายกัน แต่มีสาเหตุและลักษณะที่ต่างกันอย่างชัดเจน การดูแลและรักษาจึงต้องเน้นวิธีที่เหมาะสมกับแต่ละประเภท เพื่อช่วยลดการอักเสบและป้องกันไม่ให้สิวกลับมาอีกอย่างยั่งยืน การเข้าใจสิวแต่ละแบบ จะทำให้คนไข้เลือกดูแลผิวได้อย่างถูกต้องและเห็นผลดีขึ้น
หากคนไข้ยังไม่แน่ใจว่าสิวที่เป็นอยู่เป็นประเภทใด หรือดูแลด้วยตัวเองแล้วไม่เห็นผล คลินิกรักษาสิวไม่เลี้ยงไข้ โดยคลินิกผิวหนังลลิษา ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยวิเคราะห์ปัญหาผิวอย่างละเอียด และออกแบบแผนการรักษาที่ตรงจุด เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะบอกลาสิว พร้อมคืนผิวแข็งแรงอย่างยั่งยืน
บทความโดย
ลลิษาคลินิก : คลินิกรักษาสิว ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง (ตจวิทยา) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาผิว
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้า เป็นสิว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวหนังที่ลลิษาคลินิกได้ ฟรี!! ทุกสาขา