เลเซอร์หลุมสิว แบบไหนถึงเหมาะกับผิวเรา ทำครั้งถึงเห็นผล หายถาวรไหม

เลเซอร์หลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวแบบไหน ทำแล้วถึงเห็นผล

สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเรื้อรังมักจะประสบกับปัญหาหลุมสิวทิ้งร่องรอยไว้ จึงจำเป็นต้องรักษาหลุมสิวให้หายไป และการรักษาหลุมสิวด้วยการใช้เครื่องมือเลเซอร์ชนิดต่าง ๆ เป็นการใช้พลังงานความร้อนเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามกระบวนการธรรมชาติของร่างกายโดยทำให้เกิดแผลเล็กๆที่บริเวณหลุมสิว ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 1 – 3 เดือน ท่านที่กำลังสนใจการเลเซอร์รักษาหลุมสิว แต่ยังไม่มั่นใจว่าผลลัพธ์จะเห็นผลจริงไหม? หรือควรทำเลเซอร์ที่ไหนดี? บทความนี้มีคำตอบเกี่ยวกับการเลเซอร์รักษาหลุมสิวอย่างแน่นอน

รู้จักเลเซอร์หลุมสิว คืออะไร?

เลเซอร์หลุมสิว (Laser Acne Scar Treatment) คือการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ในการรักษาหลุมสิวหรือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว เลเซอร์จะทำให้เกิดแผลขนาดเล็กและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ผิวหนังบริเวณที่มีหลุมสิวดูเรียบเนียนขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดรอยแดงและรอยดำที่เกิดจากสิวได้อีกด้วย

ทำความเข้าใจ หลุมสิวคืออะไร เกิดจากสาเหตุอะไร?

หลุมสิว มีกี่ระดับ

หลุมสิว (Acne Scars) คือรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นหลังจากสิวหายแล้ว แต่ยังทิ้งร่องรอยหรือหลุมบนผิวหนังไว้ หลุมสิวสามารถมีลักษณะหลากหลาย เช่น หลุมลึก หลุมตื้น หรือรอยแผลเป็นที่มีความกว้างต่างกัน หลุมสิวเกิดขึ้นเนื่องจากการอักเสบของสิวที่ทำลายเนื้อเยื่อผิวหนัง ซึ่งทำให้เกิดการสูญเสียคอลลาเจนและเนื้อเยื่อในบริเวณนั้น ส่งผลให้ผิวหนังไม่สามารถฟื้นฟูได้สมบูรณ์และเกิดเป็นรอยแผลเป็นหรือหลุมสิว
สาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมสิวมีหลายประการ เช่น

  • การอักเสบที่รุนแรง: เมื่อสิวอักเสบมากจนทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังชั้นลึก จะทำให้ผิวหนังไม่สามารถฟื้นฟูได้เต็มที่
  • การบีบหรือแกะสิว: การบีบหรือแกะสิวสามารถทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังและเพิ่มโอกาสในการเกิดรอยแผลเป็น
  • การติดเชื้อ: สิวที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงและทิ้งร่องรอยไว้
  • การรักษาสิวที่ไม่ถูกต้อง: การใช้ผลิตภัณฑ์หรือวิธีการรักษาสิวที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้สิวอักเสบมากขึ้น

หลุมสิวมีทั้งหมดกี่แบบ แต่ละแบบมีลักษณะและความรุนแรงอย่างไร ?

หลุมสิวมีกี่แบบ ใช้เลเซอร์รักษาต่างกันไหม

หลุมสิวสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะและความรุนแรงของรอยแผลเป็น แต่ละประเภทมีลักษณะและความรุนแรงที่แตกต่างกันไป ดังนี้

  1. Rolling scar : หลุมตื้นและมีลักษณะเป็นคลื่น ไม่ชัดเจนเหมือนกับ Ice Pick หรือ Boxcar มีความรุนแรงน้อยที่สุด สามารถรักษาได้ด้วยหลายวิธี เช่น การทำเลเซอร์หรือการทำทรีตเมนต์อื่น ๆ
  2. Box scar : หลุมกว้างและมีขอบชัดเจน คล้ายกับกล่องหรือรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด โดยมีความรุนแรงปานกลาง สามารถรักษาด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น เลเซอร์หรือการเติมฟิลเลอร์
  3. Ice pick scar: หลุมแคบและลึก คล้ายกับถูกเจาะด้วยของแหลม จึงทำให้รุนแรงมากที่สุดในแง่ของการรักษาเนื่องจากลึกและแคบ

วิธีรักษาหลุมสิว มีกี่วิธี? รักษาด้วยตัวเองได้ไหม วิธีไหนดีที่สุด

การรักษาหลุมสิวมีหลายวิธี ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นการรักษาด้วยตัวเอง ไม่ต้องเลเซอร์ เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี (Vitamin C) หรือ เรตินอยด์ (Retinoids) หรือจะเป็นการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ การเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของหลุมสิว ดังนี้:

การใช้เซรั่มเพื่อรักษาหลุมสิวเป็นวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเซรั่มมีความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์สูงและสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี เช่น เซรั่มที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ (Retinoids) จะช่วยผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นคอลลาเจน วิตามินซี (Vitamin C) ช่วยลดรอยแดงรอยดำ หรือ ไนอาซินาไมด์ (Niacinamide) ที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว

การใช้ครีมรักษาหลุมสิวเป็นวิธีที่สะดวกและสามารถทำได้ที่บ้าน มีครีมหลายยี่ห้อที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการรักษาหลุมสิว โดยมักมีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิว เช่น Mederma Advanced Scar Gel ช่วยลดรอยแผลเป็น หรือ Mederma Advanced Scar Gel ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเร่งการผลัดเซลล์ผิว

การทานยารักษาหลุมสิวไม่ใช่วิธีที่แพร่หลายเท่ากับการใช้ผลิตภัณฑ์ทาภายนอกหรือการทำทรีตเมนต์ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่การทานยาสามารถช่วยในการรักษาหลุมสิวหรือเสริมประสิทธิภาพการรักษาได้ โดยยาที่ใช้มักจะเป็นยาที่ช่วยลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือปรับสภาพผิว แต่ไม่ทำให้หลุมสิวหายไป

เป็นวิธีการรักษาสิวและหลุมสิวที่ใช้เทคนิคการขัดผิวด้วยเครื่องมือเฉพาะทาง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพออกและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสดใสขึ้น วิธีนี้สามารถช่วยในการลดรอยแผลเป็นจากสิว รอยดำ และรอยแดงได้ แต่อาจทำให้ระคายเคืองได้สูง

เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่มีความลึกและยึดติดกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง วิธีนี้เหมาะสำหรับหลุมสิวประเภท Ice Pick และบางกรณีของ Boxcar ที่มีขนาดเล็กและลึก วิธีการผ่าตัดหลุมสิวนี้จะช่วยให้ผิวหนังที่มีหลุมสิวถูกตัดออกและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

เป็นวิธีการรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยม วิธีนี้เป็นการใช้เข็มหรือเครื่องมือพิเศษในการตัดเนื้อเยื่อผังผืดที่ยึดรอบหลุมสิวให้หลุดออกมา ซึ่งช่วยให้ผิวหนังสามารถยกตัวขึ้นและเรียบเนียนมากขึ้น การทำ Subcision เหมาะสำหรับหลุมสิวประเภท Boxcar หรือ Rolling ที่มีความลึกและยึดติดกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง

เป็นวิธีที่รวดเร็วและมีผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันที ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น วิธีนี้เหมาะสำหรับหลุมสิวประเภท Rolling และ Boxcar ที่มีความตื้นหรือปานกลาง

การใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ในการรักษาหลุมสิวหรือรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว เลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ผิวหนังบริเวณที่มีหลุมสิวดูเรียบเนียนขึ้น

เลเซอร์หลุมสิว ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง

เลเซอร์หลุมสิว ช่วยรักษาผิวหน้าเรื่องอะไร
  • ลดหลุมสิวและรอยแผลเป็น เพราะเลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและรอยแผลเป็นดูเรียบเนียนขึ้น
  • ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน เพราะเลเซอร์ช่วยลอกผิวชั้นบนออกและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
  • ลดรอยแดงและรอยดำจากสิว ทำให้ผิวดูสม่ำเสมอและมีสีผิวที่สวยงาม
  • กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและลดการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งสามารถช่วยลดการเกิดสิวใหม่ได้

รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์เหมาะสำหรับใครบ้าง

การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสำหรับหลายกลุ่มคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีนี้ ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนการรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ

บุคคลดังต่อไปนี้คือกลุ่มคนที่เหมาะสมกับการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

  • ผู้ที่มีหลุมสิวลึกหรือปานกลาง เช่น ผู้ที่มีหลุมสิวประเภท Boxcar, Rolling, หรือ Ice Pick ที่ต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ
  • ผู้ที่มีรอยแผลเป็นจากสิว เพราะการเลเซอร์สามารถช่วยลดรอยแผลเป็นจากสิวและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  • ผู้ที่มีรอยแดงหรือรอยดำจากสิว เพราะเลเซอร์บางประเภทสามารถช่วยลดรอยแดงและรอยดำ ทำให้ผิวดูสม่ำเสมอมากขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิว เพราะเลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ผิวดูสดใสและเรียบเนียนขึ้น
  • ผู้ที่ไม่มีข้อห้ามทางการแพทย์ เช่น การมีประวัติการแพ้เลเซอร์หรือยาบางชนิด

ใครไม่ควรใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิว

  • ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือมีปัญหาผิวเฉพาะเจาะจง เช่น โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคผิวหนังอื่น ๆ
  • ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ หรือแผลเป็นที่นูนขึ้นมาอาจมีความเสี่ยงสูงในการเกิดแผลเป็นจากการทำเลเซอร์
  • ผู้ที่มีการติดเชื้อผิวหนัง เช่น เริม หรือการติดเชื้อแบคทีเรีย ควรรักษาการติดเชื้อให้หายก่อนทำการรักษาด้วยเลเซอร์
  • ผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิด เช่น ยา Isotretinoin (Accutane) อาจทำให้ผิวไวต่อการทำเลเซอร์ ควรหยุดใช้ยาอย่างน้อย 6 เดือนก่อนทำการรักษาด้วยเลเซอร์
  • ผู้ที่มีประวัติการแพ้เลเซอร์ เนื่องจากหากมีประวัติการแพ้เลเซอร์หรือมีผลข้างเคียงที่รุนแรงจากการทำเลเซอร์ในอดีต ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์
  • ผู้ที่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ในช่วงตั้งครรภ์เนื่องจากความปลอดภัยยังไม่ได้รับการยืนยันในกลุ่มนี้

เครื่องเลเซอร์รักษาหลุมสิว มีทั้งหมดกี่แบบ?

เครื่องเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาหลุมสิวมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะและวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน เหมาะสำหรับการรักษาหลุมสิวและปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป ต่อไปนี้คือประเภทหลักของเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ในการรักษาหลุมสิว

  • เลเซอร์หลุมสิวด้วย Pico Laser ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและรอยแผลเป็นดูเรียบเนียนขึ้น และยังสามารถช่วยลดรอยแดงและรอยดำที่เกิดจากสิว มีความแม่นยำสูงและสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ทำให้มีความปลอดภัยสูง
  • เลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractional CO2 เป็นการใช้แสงเลเซอร์ CO2 ที่ถูกแบ่งเป็นจุดเล็ก ๆ หลายจุด ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและรอยแผลเป็นดูเรียบเนียนขึ้น มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาหลุมสิวลึก
  • เลเซอร์หลุมสิวด้วย IPL หรือ (Intense pulsed light) เป็นการใช้แสงที่มีความเข้มสูงและมีช่วงความยาวคลื่นที่หลากหลายในการรักษาปัญหาผิว รวมถึงหลุมสิว รอยแผลเป็น รอยแดง และรอยดำ ไม่ต้องพักฟื้นนาน และสามารถใช้รักษาปัญหาผิวอื่น ๆ ได้ เช่น ฝ้า กระ และรอยดำ แต่จะได้ผลน้อยในหลุมสิว
  • เลเซอร์หลุมสิวด้วย Q-Switched Laser เป็นเลเซอร์ที่มีความสามารถในการปล่อยพลังงานในช่วงเวลาสั้น ๆ (nanoseconds) ซึ่งช่วยในการรักษารอยแผลเป็น รอยดำ และรอยแดงจากสิว แต่อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และอาจไม่เหมาะสำหรับหลุมสิวที่ลึกมาก
  • เลเซอร์หลุมสิวด้วย Picoway Laser เป็นเลเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยี picosecond (หนึ่งในล้านล้านวินาที) ซึ่งสามารถปล่อยพลังงานเลเซอร์ในช่วงเวลาสั้นมาก ๆ ทำให้เกิดความร้อนน้อยลงและมีความเสี่ยงน้อยต่อการเกิดผลข้างเคียง ไม่ต้องพักฟื้นนาน
  • เลเซอร์หลุมสิวด้วย E-Matrix เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงาน RF (Radiofrequency) ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน

ข้อดีของการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

ข้อดีของการทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว
  • ประสิทธิภาพสูง เพราะเลเซอร์มีความสามารถในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและรอยแผลเป็นดูเรียบเนียนขึ้น
  • ผลลัพธ์ที่เห็นได้เร็วภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการรักษา โดยเฉพาะเมื่อใช้เลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง
  • ความหลากหลายของเทคโนโลยี มีเลเซอร์หลายประเภทที่สามารถเลือกใช้ตามความต้องการและสภาพผิวของผู้ป่วย
  • การรักษาที่ตรงจุด เพราะเลเซอร์สามารถควบคุมและมุ่งเน้นไปยังบริเวณที่ต้องการรักษาได้อย่างแม่นยำ ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพสูง
  • การปรับสภาพผิว นอกจากการรักษาหลุมสิว เลเซอร์ยังช่วยปรับสภาพผิวให้ดูสดใส เรียบเนียน และลดรอยแดง รอยดำจากสิว
  • ความปลอดภัย เลเซอร์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยามีความปลอดภัยสูงเมื่อทำโดยผู้เชี่ยวชาญ

ข้อเสียของการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

  • ค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะเมื่อใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
  • ต้องทำหลายครั้ง หลายประเภทของเลเซอร์อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายและเวลาที่ต้องลงทุนเพิ่มขึ้น
  • การพักฟื้น บางประเภทของเลเซอร์ เช่น Fractional CO2 อาจต้องการการพักฟื้นหลังการรักษา ผิวอาจแดงและบวมชั่วคราว
  • ผลข้างเคียง เช่น การระคายเคือง การเกิดรอยแดง การบวม รอยดำชั่วคราว หรือการติดเชื้อ อาจเกิดขึ้นได้หากการรักษาไม่ได้มาตรฐาน
  • ความเจ็บปวด เพราะการรักษาด้วยเลเซอร์บางประเภทอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดหรือไม่สบาย โดยเฉพาะเมื่อใช้เลเซอร์ที่มีพลังงานสูง
  • ข้อจำกัดในการใช้ การรักษาด้วยเลเซอร์อาจไม่เหมาะสำหรับบางกลุ่มคน เช่น ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ผู้ที่มีประวัติการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ หรือผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

เลเซอร์หลุมสิว กี่วันรอยแผลหาย และกี่ครั้งจึงเห็นผล?

การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์มักจะมีระยะเวลาการหายของรอยแผลและจำนวนครั้งที่ต้องทำเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ ความลึกและความรุนแรงของหลุมสิว และสภาพผิวของแต่ละบุคคล โดยส่วนใหญ่รอยแผลจะหายไปภายใน 1 – 14 วันแรกขึ้นอยู่กับประเภทเลเซอร์ และนจำวนครั้งที่ต้องทำจะอยู่ที่ 2 – 5 ครั้งขึ้นไป

อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หลังจากเลเซอร์รักษาหลุมสิว

อาการข้างเคียงนั้นอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ สภาพผิวของผู้ป่วย และการดูแลหลังการรักษา เช่น รอยแดง บวม การลอกของผิว ความแห้ง รอยดำชั่วคราว

การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์รักษาหลุมสิวมีอะไรบ้าง

1.ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกประเภทของเลเซอร์ที่เหมาะสม
2.หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงและใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการรักษา
3.งดการใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิด เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์, กรดไฮดรอกซี (AHAs/BHAs), และสารเคมีรุนแรงอื่น ๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการรักษา

ขั้นตอนเลเซอร์รักษาหลุมสิวมีอะไรบ้าง? ใช้เวลานานไหม

ขั้นตอนการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์จะมีรายละเอียดดังนี้

  1. โดยทั่วไปจะเริ่มจากการทำความสะอาดผิว
  2. ฉีดยาชา
  3. เริ่มเลเซอร์รักษาหลุมสิว
  4. เช็ดทำความสะอาดหลังรักษา

โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที

หลังจากเลเซอร์รักษาหลุมสิว มีวิธีดูแลผิวอย่างไรบ้าง?

หลังจากที่รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์แล้วควร หลีกเลี่ยงแสงแดด ทาครีมบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น และหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าอย่างน้อย 1-3 วันหลังการเข้ารับการรักษา

ขณะเลเซอร์หลุมสิวรู้สึกอย่างไร เจ็บไหม?

การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์อาจทำให้รู้สึกไม่สบายหรือเจ็บเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับประเภทของเลเซอร์ที่ใช้ ความไวของผิวหนังของผู้ป่วย และความลึกของการรักษา ทั้งนี้ หากกลัวเจ็บสามารถขอยาชาหรือใช้เครื่องทำความเย็นเพื่อลดการระคายเคืองได้

เลเซอร์หลุมสิวอันตรายไหม

การเลเซอร์หลุมสิวไม่อันตราย และมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากการรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และในคลินิกที่มีมาตรฐาน

คลินิกทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว ที่ไหนดี

ควรเข้ารับการรักษา ทำเลเซอร์รักษาหลุมสิวกับสถานให้บริการที่ได้รับการรองรับ รวมไปถึงมีแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ หากใครที่กำลังหาคลินิกรักษาหลุมสิว หรือปัญหาสิว ลลิษาคลินิกเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี เนื่องจากมีการวินิจฉัยที่แม่นยำ ระบุปัญหาและหาวิธีแก้ได้ตรงจุด รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย

ทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว ราคาเท่าไหร่?

โดยทั่วไปราคาจะเริ่มต้นที่ 1,000 – 70,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปแบบการรักษาและประเภทของเลเซอร์ที่ใช้

รีวิว การทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว

รีวิวหลังทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว

คำถามที่พบบ่อย

ปัญหารูขุมขนกว้างรักษาด้วยเลเซอร์ได้ไหม?

ปัญหารูขุมขนกว้างสามารถรักษาด้วยเลเซอร์ได้เป็นวิธีหนึ่ง เพราะ เลเซอร์สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้นและผิวดูเรียบเนียน

เลเซอร์รักษาหลุมสิว แล้วหายถาวรไหม?

การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีและช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นได้อย่างชัดเจน แต่การหายถาวรหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทและความรุนแรงของหลุมสิว การดูแลผิวหลังการรักษา และสภาพผิวของแต่ละบุคคล

เลเซอร์หลุมสิวแบบไหนดีที่สุด?

ควรเลือกประเภทของเลเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาหลุมสิวของแต่ละบุคคลโดยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์เพียงอย่างเดียวได้ไหม ?

การใช้เลเซอร์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับบางคนที่มีหลุมสิวลึกหรือรอยแผลเป็นที่มีความรุนแรง การรักษาหลุมสิวมักจะได้ผลดีที่สุดเมื่อใช้วิธีการรักษาหลายชนิดร่วมกัน เช่น การทำ Subcision และการบำรุงผิวให้ชุ่มชิ้นอยู่ตลอด

สรุป

การรักษาด้วยเลเซอร์ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เนื่องจากการใช้เลเซอร์ที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดปัญหาผิวหนังเพิ่มเติมได้ เช่น การเกิดรอยแผลเป็นหรือการระคายเคือง และผลลัพธ์ของการรักษาด้วยเลเซอร์มักจะเห็นผลหลังจากทำหลายครั้ง และอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือเดือนเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทั้งนี้ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด

บทความโดย

ลลิษาคลินิก : คลินิกรักษาสิว ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง (ตจวิทยา) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาผิว

ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้า เป็นสิว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวหนังที่ลลิษาคลินิกได้ ฟรี!! ที่ตั้งคลินิก เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น 9 (ติดบันไดเลื่อน)