สะเก็ดเงินที่เล็บ ทั้งมือและเท้าเกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่ รักษายังไงให้ได้ผล

สะเก็ดเงินที่เล็บมือ เล็บเท้า หลายคนอาจมองว่าเป็นแค่ปัญหาเล็บแตก เล็บหนา หรือมีสีผิดปกติ แต่รู้ไหมว่าแท้จริงแล้วนี่อาจเป็นสัญญาณของโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกัน!

แล้วสะเก็ดเงินที่เล็บอันตรายไหม รักษาได้หรือเปล่า และมีวิธีไหนป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก? บทความนี้ลลิษา คลินิก (คลินิกผิวหนัง ลลิษา) มีคำตอบพร้อมเคล็ดลับดูแลเล็บให้แข็งแรงมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!

สะเก็ดเงินที่เล็บ คืออะไร

สะเก็ดเงินที่เล็บ (Nail Psoriasis) คือภาวะที่เล็บมือหรือเล็บเท้าเกิดการเปลี่ยนแปลงจากโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เซลล์ผิวหนังแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ เล็บจึงมีลักษณะผิดรูป หนา เปราะ หรือเปลี่ยนสี

สะเก็ดเงินที่เล็บ เกิดจากอะไร?

• การแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังผิดปกติ

บริเวณโคนเล็บและใต้แผ่นเล็บมีการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังเร็วกว่าปกติ ทำให้เกิดการอักเสบและรอยโรคที่เล็บ

• ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ

ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานมากเกินไป จนกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังและเล็บเกิดการอักเสบเรื้อรัง

• พันธุกรรม

ผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นโรคสะเก็ดเงินมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไป

• ปัจจัยกระตุ้นภายนอก

เช่น การบาดเจ็บที่เล็บ การสัมผัสสารเคมี การติดเชื้อ ความเครียด หรือการใช้ยาบางชนิด ซึ่งอาจทำให้อาการกำเริบหรือรุนแรงขึ้น

สะเก็ดเงินที่เล็บ อันตรายหรือไม่

สะเก็ดเงินที่เล็บไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงชีวิตและไม่ติดต่อ แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้เล็บเสียรูป หนา เปราะ หรือแยกออกจากเนื้อเล็บถาวรได้ บางรายอาจมีอาการปวด เจ็บ หรือเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราร่วมด้วย ที่สำคัญคือสะเก็ดเงินที่เล็บเป็นสัญญาณเตือนว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงินได้

โรคสะเก็ดเงินที่เล็บ มักจะมีอาการยังไง

โรคสะเก็ดเงินที่เล็บสามารถเกิดได้ทั้งเล็บมือและเล็บเท้า โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่

1. เล็บมีรอยบุ๋มเล็ก ๆ คล้ายถูกเข็มจิ้ม (Pitting)
2. เล็บหนา เปราะ หรือแตกหักง่าย
3. สีเล็บเปลี่ยนไป เช่น เหลือง น้ำตาล หรือขาวขุ่น
4. มีรอยเส้น รอยแตก หรือจุดสีแดง/น้ำตาลใต้เล็บ
5. เล็บแยกออกจากเนื้อเล็บ (Onycholysis) ทำให้มีช่องว่างสะสมสิ่งสกปรก
6. ปวด บวม หรือมีการอักเสบรอบ ๆ เล็บ โดยเฉพาะเมื่อโรคกำเริบ

วิธีรักษาสะเก็ดเงินที่เล็บ ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

การรักษาสะเก็ดเงินที่เล็บมีหลากหลายวิธี แพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมตามความรุนแรงของอาการ โดยวิธีที่ใช้บ่อย ได้แก่

การใช้เลเซอร์รักษา

แพทย์อาจใช้การฉายแสง UV หรือเลเซอร์ชนิดพิเศษ เช่น Excimer laser หรือ Pulsed dye laser เพื่อลดการอักเสบและชะลอการแบ่งตัวของเซลล์ มักใช้ร่วมกับยาทาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่มีอาการไม่มากหรือไม่ตอบสนองต่อยาทา

การใช้ยากินรักษา

ใช้สำหรับผู้ป่วยที่อาการรุนแรงหรือมีภาวะข้ออักเสบร่วมด้วย ยากลุ่มนี้ช่วยปรับการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น Methotrexate, Acitretin หรือ Cyclosporine
ทั้งนี้ ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อติดตามผลและหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง

การรักษาสะเก็ดเงินที่เล็บโดยการฉีดยา

การฉีดยาสเตียรอยด์หรือยากดภูมิเข้าบริเวณใต้โคนเล็บ เพื่อลดการอักเสบและการหนาตัวของเล็บโดยตรง มีประสิทธิภาพสูง เหมาะกับผู้ที่เป็นไม่กี่เล็บและอาการจำกัดเฉพาะจุด แต่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

รักษาสะเก็ดเงินที่เล็บโดยยาทา

การทายาเป็นวิธีแรกที่แพทย์นิยมใช้ มักใช้ยาสเตียรอยด์ อนุพันธ์ของวิตามินดี แอนาล็อก (Calcipotriol) หรือยาทาผสม ช่วยลดการอักเสบและควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนัง
โดยยาจะต้องซึมผ่านเล็บไปถึงฐานเล็บและผิวหนังใต้เล็บ จึงต้องใช้เวลาในการรักษานาน และผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

แนวทางดูแลเล็บเมื่อเป็นสะเก็ดเงินที่เล็บมือและเล็บเท้า

นอกจากการรักษาตามแพทย์สั่งแล้ว การดูแลเล็บด้วยตัวเองก็สำคัญมาก เพราะช่วยลดการกระตุ้นโรคและป้องกันเล็บเสียรูปได้

1. ตัดแต่งเล็บอย่างระมัดระวัง: ตัดเล็บให้สั้นเรียบ หลีกเลี่ยงการตัดเล็บลึกหรือกัดเล็บ
2. หลีกเลี่ยงการกระแทกหรือบาดเจ็บเล็บ: พยายามสวมถุงมือเมื่อทำงานบ้านหรือหยิบจับสิ่งของหนัก
3. บำรุงเล็บและผิวรอบเล็บ: ใช้น้ำมันหรือครีมบำรุงเล็บเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
4. หลีกเลี่ยงสารเคมีแรง ๆ : เช่น น้ำยาล้างจานหรือสารทำความสะอาดที่รุนแรง

หมอเล่าให้ฟัง! เคล็ดลับป้องกันไม่ให้เป็นโรคสะเก็ดเงินที่เล็บมือและเล็บเท้า

โรคสะเก็ดเงินเป็นโรคที่ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล 100% แต่เราสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันอาการกำเริบได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

• ป้องกันการบาดเจ็บ
  เล็บที่ถูกตัดสั้นเกินไป แคะเล็บ หรือกระแทกอาจกระตุ้นโรคได้ ควรดูแลเล็บอย่างเบามือและหลีกเลี่ยงการทำเล็บรุนแรง
• ระวังสารเคมี
  ผลิตภัณฑ์เช่นน้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำยาล้างเล็บที่มีอะซิโตน อาจระคายเคืองเล็บ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อ่อนโยนและใส่ถุงมือ
• หลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
  ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง รักษาความสะอาดของเล็บและผิวหนังเสมอ
• ควบคุมความเครียดและดูแลสุขภาพกายและใจ
  เพราะความเครียดสามารถกระตุ้นให้โรคกำเริบ ควรหาเวลาพักผ่อน หรือทำกิจกรรมที่ชอบเพื่อลดความเครียด เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน

(FAQ) คำถามที่หมอพบได้บ่อย

โรคสะเก็ดเงินที่เล็บกับโรคเชื้อราที่เล็บ ต่างกันตรงไหน

สะเก็ดเงินที่เล็บเกิดจากภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ทำให้เล็บหนา เปลี่ยนสี หรือเป็นรอยบุ๋ม ส่วนเชื้อราที่เล็บเกิดจากการติดเชื้อราโดยตรง มักมีเล็บเหลืองหรือขาวขุ่น และมีกลิ่นหรือเศษเล็บหลุดง่าย

ใครเสี่ยงเป็นโรคสะเก็ดเงินที่เล็บมือและเล็บเท้าที่สุด?

ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคสะเก็ดเงิน หรือคนที่เป็นโรคสะเก็ดเงินอยู่แล้ว รวมถึงผู้ที่มีภูมิคุ้มกันผิดปกติ จะมีความเสี่ยงสูงที่สุด

โรคสะเก็ดเงินที่เล็บจะหายเองได้หรือเปล่า?

หมอต้องบอกตรง ๆ ว่า โรคนี้เป็นเรื้อรัง มักไม่หายเอง แม้อาการอาจดีขึ้นชั่วคราว แต่ถ้าไม่ได้รักษาหรือดูแล เล็บอาจเสียรูปและโรคกลับมาได้

โรคสะเก็ดเงินที่เล็บ รักษาให้หายขาดได้หรือเปล่า?

โรคสะเก็ดเงินที่เล็บไม่สามารถหายขาด 100% แต่เราสามารถควบคุมอาการ ลดการอักเสบ และป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้ หากรักษาตามแพทย์และดูแลเล็บอย่างต่อเนื่อง

สรุป

สะเก็ดเงินที่เล็บมือและเล็บเท้าเป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน แม้จะไม่ติดต่อหรืออันตรายถึงชีวิต แต่สามารถทำให้เล็บเสียรูป หนา เปราะ หรือหลุดร่อน และอาจเป็นสัญญาณเตือนโรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน การสังเกตอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ ร่วมกับการรักษาตามแพทย์ รวมถึงการดูแลเล็บและสุขภาพโดยรวม จะช่วยควบคุมอาการและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำได้

ที่ คลินิกผิวหนัง ลลิษา เราเข้าใจถึงปัญหาและความกังวลของผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินที่เล็บ ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย