คลินิกรักษาสิว โดยแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ
หน้าแรก / Skin diseases / รวมวิธีดูแลผิวแพ้แดด ป้องกันผิวเสีย ฟื้นฟูแบบอ่อนโยน
รวมวิธีดูแลผิวแพ้แดด ป้องกันผิวเสีย ฟื้นฟูแบบอ่อนโยน
หลายคนอาจสงสัยว่า ผิวแพ้แดดเกิดจากอะไร? แท้จริงแล้วผิวแพ้แดดเกิดจากการที่ผิวไวต่อแสงแดดมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดผื่นแดง แสบ คัน หรือผิวลอกเมื่อโดนแดด แม้ในระยะเวลาสั้น ๆ หากไม่รีบรักษา อาจทำให้ผิวเสื่อมสะสมหรือเกิดการอักเสบเรื้อรังได้
บทความนี้จะพาไปรู้จักสาเหตุ พร้อมตอบคำถาม ผิวแพ้แดดมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง? หมอตาลได้รวบรวมวิธีฟื้นฟูผิวบอบบางให้กลับมาแข็งแรงจากแพทย์ผิวหนังมาฝากทุกคน
แดดมีผลเสียต่อผิวอย่างไรบ้าง
แสงแดดเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำร้ายผิวโดยตรง โดยเฉพาะรังสี UV ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำลายคอลลาเจน และเร่งการเสื่อมของเซลล์ผิว เมื่อผิวสัมผัสแดดเป็นเวลานานโดยไม่ป้องกัน อาจเกิดปัญหาตั้งแต่ผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่างดำ นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคผิวหนังเรื้อรังตามมา เช่น
- โรคผิวหนังอักเสบจากแสง (Photodermatitis)
เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างแสงแดดกับสารกระตุ้นบางชนิด เช่น น้ำหอม ยา หรือเครื่องสำอาง ทำให้ผิวเกิดผื่น คัน แดง หรือแม้แต่ตุ่มน้ำ โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายอยู่แล้ว (สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาผิวแพ้ง่ายสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มที่บทความผิวแพ้ง่ายใช้อะไรดี) - Polymorphous Light Eruption (PMLE)
เป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้แสงแดดที่เกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองผิดปกติต่อแสง UV มักเกิดเมื่อร่างกายขาดการรับแสงแดดมานาน แล้วกลับมาโดนแดดใหม่ ทำให้เกิดผื่นคันหรือตุ่มนูนที่ผิวหนัง - Solar Urticaria (ลมพิษจากแดด)
ร่างกายบางคนมีการตอบสนองไวเกินต่อแสงแดด ทำให้หลั่งสารฮีสตามีนในชั้นผิวหนังภายในไม่กี่นาทีหลังสัมผัสแสงแดด ส่งผลให้เกิดผื่นนูนแดง คัน ลักษณะเหมือนลมพิษทั่วไป - โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
แม้แดดช่วยลดการอักเสบในบางราย แต่ในบางคน รังสี UV กระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากเกินไป จนทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเร็วผิดปกติ ผิวจึงเกิดอักเสบ หนา และลอกเป็นสะเก็ด - มะเร็งผิวหนัง (Skin Cancer)
การได้รับรังสี UV อย่างต่อเนื่องโดยไม่ป้องกันจะทำให้ DNA ในเซลล์ผิวหนังเกิดการกลายพันธุ์ เมื่อร่างกายไม่สามารถซ่อมแซมความเสียหายได้ อาจพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็งในระยะยาว
ผิวแพ้แดด คืออะไร

ผิวแพ้แดด (Sun-sensitive skin)คือภาวะที่ผิวหนังเกิดอาการระคายเคืองหรือตอบสนองผิดปกติต่อแสงแดด เช่น แสบ แดง คัน ผื่นหรือลอกง่าย แม้จะสัมผัสแดดเพียงช่วงสั้น ๆ
ภาวะนี้มักเกิดจากผิวที่ไวต่อรังสี UV มากกว่าปกติ ซึ่งอาจมีปัจจัยกระตุ้นร่วม เช่น พันธุกรรม การใช้ยาหรือเครื่องสำอางบางชนิด รวมถึงโรคผิวหนังบางประเภท
อาการของโรคผิวหนังแพ้แดด มีอะไรบ้าง? มักจะเป็นที่บริเวณไหน

- ผิวหนังแดง แสบร้อน หรือรู้สึกคัน
- ผื่นนูน หรือผื่นตุ่มเล็ก ๆ
- ผิวลอก หรือเป็นสะเก็ด
- ในบางรายอาจมีตุ่มน้ำพอง หรือแผลพุพองร่วมด้วย
- รู้สึกเจ็บหรือแสบร้อนในบริเวณที่ได้รับแดด
โดยส่วนใหญ่ อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง เช่น ใบหน้า คอ แขน และหลังมือ ซึ่งเป็นจุดที่ผิวเปิดและสัมผัสแสงได้มากที่สุด บางครั้งอาการอาจเกิดในบริเวณที่แสงแดดผ่านผ้าบาง ๆ หรือแม้แต่แสงที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบผิว
สาเหตุผิวแพ้เกิด เกิดจากอะไรบ้าง

- รังสียูวีเอและยูวีบี: ทำลายผิวและกระตุ้นภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ
- ยาและสารเคมีบางชนิด: ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น
- โรคประจำตัว: เช่น ลูปัสและผิวหนังอักเสบ เพิ่มความไวต่อแดด
- กรรมพันธุ์: ทำให้บางคนผิวไวต่อแสงมากกว่าคนทั่วไป
- ผิวขาวหรือบอบบาง: มีเมลานินน้อย จึงแพ้แดดง่ายกว่า
- สารเคมีในเครื่องสำอาง: เช่น น้ำหอมและสารกันเสีย กระตุ้นผิวให้ไวต่อแสง
โรคผิวหนังจากการแพ้แดด อันตรายไหม
คนไข้หลายคนอาจกังวลว่า โรคผิวหนังจากการแพ้แดด อันตรายร้ายแรงไหม? ในฐานะหมอผิวหนัง อยากบอกว่าโรคผิวหนังจากการแพ้แดด แม้ในช่วงแรกอาจดูเป็นปัญหาผิวเล็กน้อย แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี อาการอักเสบและระคายเคืองซ้ำ ๆ จะทำให้ผิวเสียสมดุลและอ่อนแอลงเรื่อย ๆ และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อผิวหนัง หรือแม้กระทั่งเพิ่มโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนังในระยะยาวได้
ผิวแพ้แดด มีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

1. หลีกเลี่ยงแสงแดด
แสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่กระตุ้นให้ผิวแพ้กำเริบ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงการโดนแดดโดยตรง รวมถึงการใช้ครีมกันแดดและใส่เสื้อผ้าปกปิดผิวอย่างเหมาะสม จะช่วยลดโอกาสการอักเสบและป้องกันไม่ให้อาการลุกลามรุนแรงขึ้น
2. ประคบเย็นเพื่อลดอาการระคายเคือง
ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเย็นหรือเจลเย็นประคบเบา ๆ บริเวณผิวที่อักเสบ ครั้งละ 10-15 นาที หลาย ๆ ครั้งต่อวัน หลีกเลี่ยงการใช้น้ำแข็งโดยตรงบนผิวเพื่อป้องกันการระคายเคืองเพิ่มเติม
3. ทายาลดการอักเสบ
เช่น ครีมสเตียรอยด์ชนิดอ่อน เพื่อบรรเทาอาการแดงและคัน แต่ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิดเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาเกินขนาดหรือใช้ติดต่อกันนานเกินไป
4. รับประทานยาแก้แพ้หรือยาอื่น ๆ ตามคำสั่งแพทย์
ในกรณีที่อาการแพ้แดดรุนแรงหรือมีอาการคันอย่างมาก แพทย์อาจสั่งยาแก้แพ้ชนิดรับประทานเพื่อช่วยควบคุมระบบภูมิคุ้มกันและลดอาการให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้
5. ใช้ครีมบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้น

ช่วยฟื้นฟูเกราะปกป้องผิว และลดความแห้งกร้าน ผิวที่แพ้แดดมักเสียสมดุล ทำให้แห้งและอ่อนแอ การทาครีมบำรุงที่เหมาะสมช่วยเติมความชุ่มชื้น ฟื้นฟูเซลล์ผิว และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดการระคายเคืองซ้ำ
6. ดูแลตุ่มน้ำและป้องกันการติดเชื้อ
ถ้ามีตุ่มน้ำใสเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการแกะ เกา หรือเจาะ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ควรปล่อยให้ตุ่มน้ำยุบลงเอง และหากมีอาการติดเชื้อ เช่น บวมแดง มีหนอง ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
7. ปรึกษาแพทย์ผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ
การติดตามอาการกับแพทย์อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และปรับการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพผิวในแต่ละช่วงเวลาช่วยป้องกันอาการกำเริบและภาวะแทรกซ้อนในอนาคต
วิธีการดูแลและป้องกัน ผิวแพ้แดด

- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแดดจัด โดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00–16.00 น. ที่รังสี UV สูงสุด
- ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 ขึ้นไป และ PA++++ โดยควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเมื่อต้องอยู่กลางแจ้งนาน ๆ
- สวมใส่เสื้อผ้าปกปิดและหมวกกว้างป้องกันแดด เพื่อช่วยลดการสัมผัสแสงโดยตรงกับผิว
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวไวต่อแสง เช่น น้ำหอม หรือยาที่เพิ่มความไวแสงโดยไม่จำเป็น
- บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยฟื้นฟูและเพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อเสริมสร้างเกราะปกป้องผิวจากการถูกทำร้าย
- หากมีอาการแพ้แดด ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม
FAQ – คำถามที่หมอพบบ่อย
ผิวแพ้แดด ใช้อะไรดีคะ
สำหรับผิวแพ้แดด แนะนำให้ใช้ครีมบำรุงที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์ เพื่อไม่กระตุ้นผิวมากขึ้น ครีมที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้หรือคาลาไมน์ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนและคันได้ดี รวมถึงควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป และ PA++++ เพื่อปกป้องผิวไม่ให้แพ้แดดซ้ำ
อาการจากการแพ้แดด หายเองได้หรือเปล่าคะ

อาการแพ้แดดในคนไข้ส่วนใหญ่สามารถหายเองได้หากหลีกเลี่ยงการโดนแดดและดูแลผิวอย่างเหมาะสม แต่ในบางกรณีที่ผิวไวหรือมีโรคผิวหนังร่วม อาการอาจเรื้อรังหรือกลับมาเป็นซ้ำได้ จึงควรรับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อวางแผนการดูแลอย่างถูกต้อง
ทำไมโดนแดดแล้วคันยิบ ๆ คะ
อาการคันยิบ ๆ หลังโดนแดดเกิดจากการที่รังสี UV กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในผิวให้ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดการอักเสบและปล่อยสารที่ทำให้เกิดอาการคัน ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของผิวแพ้แดด
แพ้แดดทาครีมกันแดดช่วยได้ไหมคะ
การทาครีมกันแดดเป็นวิธีสำคัญที่สุดในการป้องกันผิวแพ้แดด เพราะช่วยกรองรังสี UV ที่เป็นสาเหตุหลักของอาการแพ้ ควรเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวบอบบางและทาให้ทั่วถึงก่อนออกแดดประมาณ 15-30 นาที เพื่อประสิทธิภาพการป้องกันสูงสุด
สรุป
แสงแดดทำร้ายผิวได้หลายด้าน ทั้งผิวไหม้ คล้ำเสีย ริ้วรอย ไปจนถึงมะเร็งผิวหนัง และยังกระตุ้นผิวแพ้แดด ซึ่งแม้ไม่ร้ายแรงเฉียบพลัน แต่หากไม่ดูแลก็ทำให้ผิวอ่อนแอและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ การป้องกันและดูแลผิวที่ถูกวิธีจึงสำคัญมาก
สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้แดดเรื้อรัง กลับมาเป็นซ้ำบ่อย ๆ หรือต้องการคำแนะนำเฉพาะทาง ที่ คลินิกผิวหนังลลิษา คนไข้จะได้รับการประเมินโดยแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง เพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลอย่างละเอียด มั่นใจได้ว่าปลอดภัยในทุกขั้นตอน เพื่อให้ผิวของคนไข้กลับมาแข็งแรง สดใส และพร้อมเผชิญกับทุกสภาพอากาศได้อย่างมั่นใจ
แหล่งอ้างอิงเกี่ยวกับข้อมูลผิวแพ้แดด
mayoclinic. Sun allergy – Symptoms and causes.
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/sun-allergy/symptoms-causes/syc-20378077
clevelandclinic. Sun Allergy: Symptoms, Causes, Treatment & Prevention.
https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/17681-sun-allergy
บทความโดย
ลลิษาคลินิก : คลินิกรักษาสิว ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง (ตจวิทยา) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาผิว
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้า เป็นสิว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวหนังที่ลลิษาคลินิกได้ ฟรี!! ทุกสาขา