กลากน้ำนม สาเหตุเกิดจากอะไร? รู้วิธีรักษาให้หายไว ไม่เป็นซ้ำ

ปัจจุบันปัญหากลากน้ำนม เป็นสิ่งที่พบเจอบ่อยทั้งบริเวณใบหน้า, ลำคอ, และแขน ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน ซึ่งหลายคนคงจะสงสัยว่า ควรรักษาอย่างไรให้หายและไม่เป็นซ้ำ ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักก่อนค่ะว่ากลากน้ำนมเกิดจากอะไร ลักษณะแบบไหน บทความนี้คลินิกผิวหนังลลิษาได้ให้คำตอบมาให้แล้วค่ะ

กลากน้ำนมขึ้นส่งผลเสียต่อผิวอย่างไร

หากเกิดกลากน้ำนมอาจจะส่งผลเสียต่อผิวในเรื่องของความสวยงามและบุคลิกภาพที่ความมั่นใจอาจจะลงลด 30-40% เนื่องจากรอยโรคจะเห็นชัดเจนขึ้นหลังถูกแดดจัดเพราะผิวบริเวณอื่นคล้ำลง

กลากน้ำนม คืออะไร

กลากน้ำนม (Pityriasis Alba) คือภาวะผิดปกติทางผิวหนังที่เกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีทำงานบกพร่อง ทำให้เกิดผื่นสีขาวจาง ๆ เป็นวงกลมหรือวงรี ซึ่งอาจเริ่มจากรอยแดงและแห้งลอกคล้ายผื่นผิวหนังอักเสบ แม้สาเหตุแน่ชัดยังไม่เป็นที่ทราบ แต่เชื่อว่าเชื่อมโยงกับผิวแห้งและภูมิแพ้ผิวหนังนั่นเองค่ะ

ผื่นกลากน้ำนม เป็นลักษณะอย่างไร

ลักษณะผื่นกลากน้ำนมเริ่มจากรอยแดงหรือสีชมพูอ่อนบนผิวหนัง ก่อนจะขยายเป็นวงกลมหรือวงรีที่มีสีจางลงจนเป็นสีขาวซีด ผิวบริเวณผื่นจะแห้งและลอกเป็นขุยบาง ๆ มีขนาดประมาณ 0.5-5 เซนติเมตร โดยมีขอบเขตไม่ชัดเจน ผื่นชนิดนี้มักไม่ก่อให้เกิดอาการคันหรืออาการรุนแรง และจะเห็นได้เด่นชัดในผู้ที่มีผิวคล้ำหรือผิวสองสี เพราะสีผื่นตัดกับสีผิวปกติอย่างชัดเจน

สาเหตุกลากน้ำนมเกิดจากอะไร

กลากน้ำนม เกิดจากความผิดปกติที่เซลล์สร้างเม็ดสีในชั้นผิวหนังกำพร้าทำงานลดลง ส่งผลให้บริเวณผิวหนังนั้น ๆ มีเม็ดสีน้อยกว่าผิวหนังปกติ แม้ว่าสาเหตุที่ทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานผิดปกติจะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ปัจจัยที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุหรือกระตุ้นให้เกิดภาวะนี้ ได้แก่

• การสัมผัสแสงแดดจัดเป็นเวลานาน
• การมีประวัติแพ้แสงแดดหรือแพ้ลม
• ภาวะขาดสารอาหารบางชนิด
• ในบางกรณี อาจเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด

บริเวณไหนบ้างที่มักจะเป็นกลากน้ำนม

กลากน้ำนมพบในบริเวณที่สัมผัสกับแสงแดดบ่อย เช่น

• ใบหน้า (แก้มและคาง)
• ลำคอ, ต้นแขนและไหล่
• หน้าอก, หลังและขา

กลากน้ำนมอันตรายไหม

กลากน้ำนมไม่เป็นอันตรายและไม่ใช่โรคติดต่อค่ะ รวมถึงไม่ได้เกิดจากเชื้อราด้วย และกลากน้ำนมมีแนวโน้มที่จะหายไปเองได้ตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไปหรือเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

การวินิจฉัยกลากน้ำนม โดยคุณหมอ

การวินิจฉัยกลากน้ำนมโดยคุณหมอจะพิจารณาจากประวัติสุขภาพและตรวจสภาพผิวหนัง พบรอยผื่นลักษณะเฉพาะ เช่น รอยด่าง สีไม่สม่ำเสมอ มีขุยบาง ๆ บนผิว ซึ่งมักปรากฏบริเวณหน้า แขน คอ และลำตัว

กลากน้ำนม รักษาอย่างไรดี?

โดยทั่วไป กลากน้ำนมสามารถหายได้เอง เมื่อเด็กเติบโตขึ้น แต่อาจใช้เวลานานหลายเดือนจนถึงเป็นปี การดูแลเบื้องต้นและการรักษาบางอย่างสามารถช่วยบรรเทาอาการ เร่งการฟื้นตัวของผิว และลดความเด่นชัดของรอยโรคได้

1. ทำความสะอาดผิวอย่างเหมาะสม

กลากน้ำนมควรใช้สบู่อ่อนโยน หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ไม่มีฟอง (Soap-free) และมีค่า pH เหมาะสมต่อผิว และหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัดหรือร้อน เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองมากขึ้น

ข้อดีของวิธีนี้

• ช่วยลดการสะสมของสารระคายเคืองและสิ่งสกปรกบนผิว
• ป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและคันซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของกลากน้ำนม
• ลดการอักเสบและช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรงได้ดีขึ้น

ข้อเสียของวิธีนี้

• หากใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสม อาจทำให้ผิวแห้งมากขึ้นและระคายเคือง
• ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง

เหมาะกับผู้ที่มีกลากน้ำนมในระยะแรกหรือผิวแห้งง่ายและคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่ายต้องการหลีกเลี่ยงสารเคมีแรง

2. ยาทาสเตียรอยด์ความเข้มข้นต่ำ

เป็นกลากน้ำนม หมออาจจ่ายยาทากลุ่มนี้ เช่น ไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) ความเข้มข้นต่ำ (0.5% หรือ 1%) ใช้เพื่อลดการอักเสบ อาการแดง และอาการคันของรอยโรค และอาจช่วยเร่งให้ผิวกลับคืนสีเดิมได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ควรใช้ตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัดและใช้ในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง

ข้อดีของวิธีนี้

• ลดการอักเสบและอาการคันได้อย่างรวดเร็ว
• มีงานวิจัยรองรับประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการกลากน้ำนม
• ใช้ง่ายและได้รับคำแนะนำจากแพทย์ทั่วไป

ข้อเสียของวิธีนี้

• อาจทำให้ผิวบางลงหรือเกิดผิวด่างเมื่อใช้ระยะยาว
• มีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงเฉพาะที่ เช่น ผิวอักเสบ หรือสิว
• ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำหมอเพื่อป้องกันการใช้เกินความจำเป็น

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง

เหมาะกับผู้ที่มีกลากน้ำนมอักเสบรุนแรง มีผื่นแดงและคันมากและเหมาะกับผู้ที่ต้องการบรรเทาอาการเฉพาะที่อย่างรวดเร็ว และคนที่ไม่มีประวัติแพ้สเตียรอยด์และสามารถติดตามอาการได้อย่างใกล้ชิด

3. สารยับยั้งแคลซินิวรินเฉพาะที่ (Topical Calcineurin Inhibitors – TCIs)

กลากน้ำนมในบางกรณี หรือเมื่อไม่ต้องการใช้สเตียรอยด์เป็นเวลานาน โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หมออาจพิจารณาใช้ยา เช่น ทาโครลิมัส หรือพิเมโครลิมัส ซึ่งยากลุ่มนี้มีฤทธิ์ลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างเม็ดสีได้

ข้อดีของวิธีนี้

• ไม่มีผลทำให้ผิวบางเหมือนสเตียรอยด์
• เหมาะสำหรับใช้ในบริเวณผิวที่บอบบาง เช่น ใบหน้า หรือบริเวณที่ผิวบาง
• ลดการอักเสบได้ดีและมีความปลอดภัยในระยะยาว

ข้อเสียของวิธีนี้

• ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับยาสเตียรอยด์
• อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองในช่วงแรกของการใช้
• มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อ หรือความผิดปกติบางอย่าง ถ้าใช้ในระยะยาวมาก ๆ

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง

เหมาะกับผู้ที่แพ้หรือมีผลข้างเคียงจากยาสเตียรอยด์และผู้ที่มีกลากน้ำนมในบริเวณผิวบอบบาง เช่น ใบหน้า

4. การรักษาด้วยแสง (Phototherapy)

วิธีนี้มักสงวนไว้สำหรับกรณีที่เป็นรอยโรคกว้างขวาง หรือเรื้อรัง ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาอื่น ๆ

ข้อดีของวิธีนี้

• ช่วยลดการอักเสบและปรับสมดุลของผิวหนังได้ดี
• ลดอาการคันและอาการอักเสบโดยไม่ต้องใช้ยาเคมีจำนวนมาก

ข้อเสียของวิธีนี้

• ต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องและใช้เวลารักษานาน
• อาจมีผลข้างเคียงจากแสง เช่น การไหม้แดดหรือผิวหนังไวต่อแสงเพิ่มขึ้น
• ค่าใช้จ่ายสูงและไม่สะดวกสำหรับบางคน

วิธีนี้เหมาะกับใครบ้าง

เหมาะกับคนไข้กลากน้ำนมเรื้อรังที่ไม่ตอบสนองกับการรักษาทางยาปกติและคนที่มีอาการอักเสบมากและต้องการลดการใช้ยาทา และคนไข้ที่สามารถเข้ารับการรักษาในคลินิกหรือโรงพยาบาลได้สม่ำเสมอ

6 วิธีดูแลและป้องกันกลากน้ำนม

1. ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว (Moisturizing)

ทามอยเจอร์ไรเซอร์ (ครีมหรือโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้น) หรือปิโตรเลียมเจลลี (Petroleum Jelly) อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังอาบน้ำ ในขณะที่ผิวยังหมาด เพราะจะช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้ง ลอกเป็นขุย และลดอาการคันหรือระคายเคือง ทั้งนี้ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง

2. ควบคุมอุณหภูมิน้ำ

ควรอาบน้ำในอุณหภูมิปกติหรือน้ำอุ่นที่ไม่ร้อนจัด เพราะน้ำร้อนจะชะล้างน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองง่ายขึ้น

3. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน

ใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีสูตรอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงหลังใช้ และไม่มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือการแพ้

4. รักษาความสะอาดของผิว

ดูแลผิวให้สะอาดอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการปล่อยให้ผิวสกปรกหรือมีเหงื่อไคลสะสมเป็นเวลานาน ซึ่งอาจนำไปสู่การระคายเคืองหรือการติดเชื้อซ้ำได้

5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีรุนแรง

ลดการสัมผัสกับสารเคมีที่อาจระคายเคืองต่อผิว เช่น ผงซักฟอก, น้ำยาปรับผ้านุ่มบางชนิด, หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์รุนแรง

6. ใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่อ่อนโยน

ควรเลือกใช้สบู่ ครีมอาบน้ำ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีสูตรอ่อนโยน เช่น สบู่เด็ก, สบู่เหลวที่มีค่า pH ใกล้เคียงผิว เพื่อลดการระคายเคืองและไม่ทำให้ผิวแห้งตึง

ทำไมหลาย ๆ คนถึงเลือกรักษากลากน้ำนม ที่คลินิกผิวหนัง ลลิษา

รวมข้อคำถามที่หมอพบบ่อย (FAQs)

กลากน้ำนมเป็นโรคผิวหนังไหม

กลากน้ำนมเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากความผิดปกติของเม็ดสี ทำให้ผิวบริเวณนั้นมีสีจางหรือเป็นดวงสีขาว มีลักษณะเป็นผื่นวงกลมหรือวงรี ผิวแห้งและลอกเล็กน้อย

รู้จักชนิดโรคผิวหนังทั้งหมด เพื่อรู้ทันสาเหตุและการป้องกันตั้งแต่ต้นตอ

ใครมีเสี่ยงเป็นกลากน้ำนมมากที่สุด

กลากน้ำนมพบบ่อยใน เด็กวัย 3-16 ปี โดยเฉพาะเด็กที่มีผิวเข้ม หรือมีภาวะผิวแห้งและโรคภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) ปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ ได้แก่ การสัมผัสแสงแดดบ่อย อากาศแห้ง และการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่รุนแรง

กลากน้ำนมหายเองได้ไหม

กลากน้ำนมสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ เมื่อเด็กโตขึ้น โดยใช้เวลาตั้งแต่หลายเดือนถึงหลายปี อย่างไรก็ตาม ผิวอาจกลับมาเป็นซ้ำได้หากยังได้รับปัจจัยกระตุ้น เช่น แสงแดดจัดหรือผิวที่ขาดความชุ่มชื้น

กลากน้ำนมสามารถรักษาด้วยตัวเองได้ไหม

กลากน้ำนมหากอาการไม่รุนแรง สามารถดูแลตัวเองได้โดย

• ทามอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
• ทาครีมกันแดด สม่ำเสมอ
• หลีกเลี่ยง แสงแดดจัดและสบู่ที่มีความเป็นด่างสูง

สรุป

กลากน้ำนมเป็นภาวะผิวหนังอักเสบที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งพบในเด็กและวัยรุ่น โดยมีลักษณะเด่นคือรอยด่างขาวจาง ๆ บนผิว แม้ว่าภาวะนี้จะสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ แต่การดูแลอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ผิวกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น โดยมีหลักสำคัญคือการรักษาความชุ่มชื้นของผิวอย่างสม่ำเสมอ การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว

หากต้องการคำแนะนำที่แม่นยำและการรักษาที่ตรงจุด คลินิกผิวหนัง ลลิษา ยินดีให้บริการด้วยทีม หมอผิวหนังเฉพาะทาง ที่มีความเชี่ยวชาญในการวินิจฉัยเพื่อวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

ติดต่อคลินิกผิวหนัง ลลิษา

Facebook: https://www.facebook.com/lalizaclinic
Line: @lalizaclinic
โทร: 096 323 6464