คลินิกรักษาสิว โดยแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ
ฝ้าแดด คืออะไร สาเหตุเกิดจาก พร้อมแนะนำวิธีรักษาอย่างไรให้ได้ผล?

ฝ้าแดด ปัญหาผิวที่กวนใจอันดับต้น ๆ ของคนไทยเลยก็ว่าได้ เพราะจุดด่างดำที่มาพร้อมกับแสงแดด ทำให้ผิวหน้าของเราดูไม่สดใส บทความนี้หมอตาลจะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับฝ้าแดดแบบเข้าใจง่าย ตั้งแต่ลักษณะที่มองเห็น ความแตกต่างจากฝ้าชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะฝ้าเลือดที่หลายคนสับสน ไปจนถึงสาเหตุการเกิดที่ไม่ได้มีแค่แสงแดดเท่านั้น สำหรับ
ใครที่กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาฝ้าเลือดอยู่ ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะเรามีวิธีรักษาแบบจัดเต็มมาบอกต่อแน่นอน เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาทำความรู้จักกับฝ้าแดดให้เข้าใจกว่าที่เคยกันเลย
ฝ้าแดด คืออะไร?

ฝ้าแดด คือจุดด่างดำบนผิวหนังจากการโดนแสงยูวี (UV) จากแดดเป็นหลัก นอกจากนี้ แสงสีฟ้าจากหลอดไฟ มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ก็เป็นอีกสาเหตุได้ ซึ่งลักษณะของฝ้าแดด มักเป็นรอยสีน้ำตาลเข้ม ดำ แดง หรือเทาอมม่วง ถ้าไม่ดูแลรักษา สีจะเข้มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเราต้องเจอกับแสงยูวีทุกวัน
ฝ้าแดด เป็นแบบไหน
ฝ้าแดดจะมีลักษณะเป็นรอยด่าง ๆ บนผิวหนังของเรา มีสีได้ตั้งแต่สีน้ำตาล แดง เทาอมม่วง ไปจนถึงสีดำ
ฝ้าแดดเกิดจากอะไรบ้าง?

ฝ้าแดดเกิดจากการที่ผิวสร้างเม็ดสี (เมลานิน) มากเกินไป สาเหตุหลัก ๆ มาจากหลายอย่างรวมกัน ดังนี้
- แสงแดด แสงแดดมีรังสี UV ที่กระตุ้นให้ผิวสร้างเม็ดสีมากขึ้น พอนานวันเข้าก็สะสมจนเป็นฝ้า นอกจากนี้ แสงอื่น ๆ เช่น แสงจากหลอดไฟ มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่ความร้อนจากการทำอาหารหรืออบซาวน่าบ่อย ๆ ก็มีส่วนทำให้เกิดฝ้าได้เหมือนกัน
- ฮอร์โมนเปลี่ยน ปกติในร่างกายเรามีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนอยู่ ถ้าฮอร์โมนเหล่านี้สูงขึ้นผิดปกติ เช่น จากการกินยาคุมหรือตอนท้อง ก็มีโอกาสเกิดฝ้าได้ง่ายกว่าคนอื่น
- เครื่องสำอางไม่ดี เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน มักมีสารอันตราย เช่น ปรอท ที่ทำให้ผิวขาวเร็ว แต่จริงๆ แล้วมันทำร้ายผิวลึกถึงข้างใน ทำให้เกิดฝ้าในระยะยาวได้ นอกจากนี้ ควรเลือกเครื่องสำอางที่ไม่มีน้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือสารเคมีที่ทำให้แพ้ง่ายด้วย
- ยาบางชนิด มีการศึกษาพบว่า ยาบางอย่าง เช่น ยากันชัก หรือยาคุมกำเนิด ก็กระตุ้นให้เกิดฝ้ามากขึ้นได้
- ขาดวิตามิน การที่ร่างกายขาดวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินบี 12 หรือการดื่มเหล้าหนัก ๆ ทำให้ร่างกายขาดวิตามินได้ง่าย ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดฝ้า
- อบซาวน่า การอบซาวน่าเป็นการรับความร้อนโดยตรง ซึ่งอาจจะไปกระตุ้นผิวหน้าที่บอบบาง ทำให้เกิดฝ้า กระ หรือจุดด่างดำได้
- ปัจจัยอื่น ๆ เรื่องของกรรมพันธุ์และอายุที่มากขึ้นก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดฝ้าด้วยเหมือนกัน
ฝ้าแดด มีกี่ชนิด ชนิดอะไรบ้าง

ฝ้าแดดมีทั้งหมด 2 ชนิด ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้
- ฝ้าแดดตื้น: จะมีสีน้ำตาลเข้มถึงดำ ขอบจะดูคมชัด เกิดจากการที่ผิวหนังชั้นนอก (หนังกำพร้า) สร้างเม็ดสีเมลานินเยอะกว่าปกติ ฝ้าชนิดนี้เกิดง่ายและรักษาไม่นาน
- ฝ้าแดดลึก: มักจะมีสีม่วง ๆ อมน้ำเงิน เกิดจากการที่ผิวหนังชั้นใน (หนังแท้) สร้างเม็ดสีเมลานินเยอะกว่าปกติ รักษาได้ยากกว่าฝ้าตื้น ส่วนใหญ่มักจะเจอในคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
ต่างกับฝ้าเลือด หรือไม่?
ฝ้าแดด สาเหตุหลัก ๆ มาจากแสงแดด และแสงจากอุปกรณ์ต่าง ๆ รอบตัวเรา เช่น คอมพิวเตอร์ มือถือ หรือหลอดไฟ แสงเหล่านี้จะกระตุ้นให้ผิวสร้างเม็ดสีเมลานินมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นรอยสีน้ำตาลอ่อน ๆ ไปจนถึงน้ำตาลเข้ม ในขณะที่ฝ้าเลือด มักจะมาจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกาย การกินยาบางชนิดที่มีผลต่อฮอร์โมน หรือยาที่ทำให้เส้นเลือดฝอยบนหน้าทำงานผิดปกติ บางทีก็มีเส้นเลือดฝอยแตก หรือมีเลือดไปรวมกันใต้ผิว ทำให้เกิดเป็นรอยสีแดง หรือแดงอมน้ำตาล คล้าย ๆ เส้นเลือดฝอยให้เห็น
8 วิธีรักษาฝ้าแดด ให้จางลง
ฝ้าแดดรักษายังไง หลายคนสงสัยว่าฝ้าแดดจะรักษาให้หายขาดได้หรือไม่ เนื่องจากแสงแดดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในชีวิตประจำวัน การรักษาฝ้าแดดนั้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่ฝ้าตื้นและฝ้าลึกจะใช้เวลาในการรักษาที่แตกต่างกันไป ซึ่งวิธีการรักษาก็ขึ้นอยู่กับชนิดของฝ้าและสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย
1. รักษาฝ้าแดดด้วยการใช้ยาทารักษาฝ้าแดด
การใช้ยาเฉพาะสำหรับรักษาฝ้าถือเป็นอีกวิธีหนึ่ง แต่ยาเหล่านี้ควรอยู่ภายใต้การดูแลของหมอผิวหนังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยารักษาฝ้ามักมีฤทธิ์เป็นกรดสูง ซึ่งอาจทำให้ผิวระคายเคือง แสบร้อน ลอก หรือส่งผลเสียต่อผิวได้ หากใช้ยาในปริมาณที่เหมาะสมและตามคำแนะนำของหมอ จะเป็นวิธีที่เห็นผลได้ตั้งแต่ 1-2 เดือนแรก และจะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่องประมาณ 6 เดือน ตัวยาทารักษาฝ้าแดดมีหลายชนิด เช่น
- กลุ่มกรดวิตามินเอ (เรตินอยด์)
- กรดอะซีลาอิก
- กรดโคจิก
- คอร์ติโคสเตียรอยด์
- กรดไกลโคลิก
2. รักษาฝ้าแดดด้วยการทำเลเซอร์รักษาฝ้าแดด
การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์หรือแสงเป็นวิธีที่มีความแม่นยำสูงและตรงจุด แม้ว่าจะมีราคาสูง แต่หลายคนก็เลือกใช้เป็นวิธีเสริมในการรักษา เพราะเลเซอร์สามารถช่วยกำจัดเม็ดสีส่วนเกินได้ แต่ใต้ชั้นผิวก็ยังคงมีการผลิตเม็ดสีอยู่ นอกจากนี้ การทำเลเซอร์ยังมีความเสี่ยงที่จะทำร้ายผิว ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น หากดูแลผิวหลังเลเซอร์ไม่ดีพอ อาจทำให้เกิดฝ้าที่เข้มและมากขึ้นกว่าเดิม หรือเกิดแผลจากการรักษาได้
3. รักษาฝ้าแดดด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
การใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีสารช่วยลดเลือนฝ้าอาจเห็นผลช้ากว่าการใช้ยาโดยตรง แต่เป็นวิธีที่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกใช้ยา หรือผู้ที่มีผิวบอบบางและต้องการการบำรุงผิวควบคู่กันไป นอกจากนี้ ยังมีการรักษาฝ้าแดดด้วยวิธีธรรมชาติ โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ เช่น ว่านหางจระเข้ หอมแดง มะขามเปียก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเหล่านี้อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้
4. รักษาฝ้าแดดด้วยการลอกผิวเพื่อรักษาฝ้า
การลอกผิวเพื่อรักษาฝ้าเป็นวิธีที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของหมอผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากต้องใช้ความละเอียดและแม่นยำสูง การลอกชั้นผิวด้วยกรดหรือสารเคมีสามารถช่วยให้ฝ้าจางลงได้ แต่หากลอกลึกลงไปในชั้นผิวมากเกินไป อาจทำให้เกิดแผลเป็นถาวรได้ และยังมีผลข้างเคียงทำให้ผิวบอบบาง แห้ง และไวต่อแสงแดดอีกด้วย
5. รักษาฝ้าแดดด้วยการฉีดเมโส
วิธีนี้คือการฉีดวิตามินและสารบำรุงต่าง ๆ เข้าไปในผิวโดยตรง เพื่อช่วยให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานน้อยลง ทำให้ฝ้า กระ และจุดด่างดำจางลงได้เร็วกว่าทาครีม แถมไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ตามปกติ และทำให้หน้าใสขึ้นด้วย แต่ฝ้าก็มีโอกาสกลับมาได้ ต้องฉีดซ้ำเรื่อย ๆ รวมถึงหลังฉีดก็ต้องเลี่ยงแดดและทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ
6. รักษาฝ้าแดดด้วยการทำ IPL
เป็นการใช้แสงเข้มข้นสูงยิงไปที่ผิว เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ทำให้ฝ้า กระ จุดด่างดำดูจางลง และผิวใสขึ้น วิธีนี้ไม่เจ็บ ใช้เวลาน้อย และไม่ต้องพักฟื้น แต่ต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน และฝ้าก็อาจจะกลับมาเข้มขึ้นได้ ผลข้างเคียงที่เจอได้บ้างคือผิวแดงหรือแสบร้อนนิดหน่อย แต่จะหายไปเอง หลังทำก็ต้องหลีกเลี่ยงแดดจัด ๆ และดูแลผิวตามที่หมอบอก
7. รักษาฝ้าแดดด้วยการกรอผิว
วิธีนี้จะใช้เครื่องมือพิเศษขัดเอาผิวชั้นบนออก เพื่อกระตุ้นให้ผิวใหม่ขึ้นมาแทนที่ ทำให้ฝ้า จุดด่างดำ และรอยหมองคล้ำลดลง ช่วยให้ผิวเนียนและใสขึ้น เหมาะกับฝ้าที่ไม่ลึกมาก ต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลดี ข้อดีคือไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่หลังทำผิวจะไวต่อแดดมาก ต้องทาครีมกันแดดและเลี่ยงการออกแดดจัด ๆ
8. รับคำแนะนำกับแพทย์ผิวหนัง
การปรึกษาหมอผิวหนังผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษาฝ้าแดด แม้ว่าปัญหาผิวนี้จะดูไม่ซับซ้อน แต่การวินิจฉัยที่แม่นยำ การรักษาที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลด้วยเทคโนโลยีและยาที่ปลอดภัย การป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ และการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ที่ ลลิษาคลินิก มีทีมหมอผิวหนังเฉพาะทางและเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมดูแลรักษาฝ้าแดดของคุณอย่างตรงจุดและปลอดภัย เพื่อผิวหน้าที่กระจ่างใสและมั่นใจยิ่งขึ้น
หมอบอกต่อ! วิธีดูแลผิวเมื่อเป็นฝ้าแดด
ควรปกป้องผิวจากแสงแดดจัด โดยเฉพาะช่วงเวลา 10:00 น. ถึง 16:00 น. และรับประทานอาหารที่มีวิตามินซี, อี และเอ รวมถึงดื่มน้ำให้เพียงพอ นอกจากนี้ ต้องหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอและจัดการความเครียดก็เป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวที่เป็นฝ้าแดด
ฝ้าแดดหายเองได้ไหม?

บางทีก็จางลงได้เอง แต่ส่วนใหญ่ไม่หายสนิทถ้าไม่รักษา ขึ้นอยู่กับว่าฝ้าเป็นมากี่นาน โดนแดดเยอะแค่ไหน ถ้าเลี่ยงแดดได้ดี ๆ ก็อาจจะจางลง แต่ก็อาจจะนานเป็นเดือนเป็นปี และไม่แน่ว่าจะหายหมด การใช้ครีมลดฝ้าและทากันแดดสม่ำเสมอจะช่วยให้จางเร็วกว่าปล่อยไว้เฉย ๆ
ฝ้าแดด อันตรายไหม

ฝ้าแดดแม้ไม่ใช่อันตรายต่อสุขภาพกายโดยตรงและไม่พัฒนากลายเป็นมะเร็ง แต่เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าผิวถูกรังสี UV ทำลาย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งผิวหนังในระยะยาว ผู้มีฝ้าแดดจึงควรป้องกันแสงแดดอย่าง
วิธีป้องกันฝ้าแดด หยุดต้นตอปัญหา

การป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าตั้งแต่แรก หรือป้องกันไม่ให้ฝ้าที่มีอยู่แล้วมีสีเข้มขึ้น ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการดูแลผิว
- หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดนาน ๆ: การอยู่ท่ามกลางแสงแดดจัดเป็นเวลานาน ไม่เพียงแต่ทำให้ผิวคล้ำเสียและแห้งกร้านเท่านั้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้ผิวผลิตเม็ดสีมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำ แม้อยู่ในที่ร่ม: การทาครีมกันแดดเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง แม้จะอยู่ในที่ร่มก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องสัมผัสกับรังสียูวีจากแสงแดดและหน้าจออุปกรณ์ต่าง ๆ ควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันรังสีที่อาจทำร้ายผิว
- สวมใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์ป้องกันแดด: การสวมใส่เสื้อผ้าที่ช่วยปกปิดผิว หรือใช้อุปกรณ์เสริม เช่น แว่นกันแดด เสื้อแขนยาว และร่ม จะช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดสัมผัสผิวโดยตรง
- เลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามิน: หรือสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายของรังสี UV และลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เป็นสาเหตุของฝ้า ลองเพิ่มผักผลไม้สดใส เช่น ส้ม มะนาว เบอร์รี ผักใบเขียว และถั่วต่าง ๆ ในมื้ออาหาร
- ระมัดระวังในการใช้ยาที่มีผลข้างเคียงกระตุ้นให้เกิดฝ้าแดด: ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น และกระตุ้นการเกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น
- ใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำ: จะช่วยให้ผิวมีความสามารถในการปกป้องตัวเองจากปัจจัยภายนอกได้ดีขึ้น มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์และสารบำรุงต่าง ๆ ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการระคายเคือง
คำถามที่พบได้บ่อย (FAQs)
ฝ้าแดดต่างจากฝ้าธรรมดายังไง?
ฝ้าแดดเกิดจาก “แสง” ทั้งแดด ไฟ หรือจอต่าง ๆ ทำให้ผิวสร้างเม็ดสีมากขึ้น มักเป็นปื้นกว้าง ๆ สีเข้มตรงโหนกแก้มและหน้าผาก ส่วนฝ้าธรรมดาอาจมาจากกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมน แต่แสงแดดก็ทำให้เข้มขึ้นได้ ทั้งสองแบบต้องดูแลและป้องกันดี ๆ ไม่ให้เข้มขึ้นอีก
ใครเสี่ยงเป็นฝ้าแดดบ้าง?
เป็นได้ทุกคน แต่คนที่ผิวขาวหรือบอบบาง คนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง คนที่ใช้ครีมไม่ถูกกับผิว และคนที่มีคนในครอบครัวเป็นฝ้า จะเสี่ยงมากกว่า ดังนั้นดูแลผิวและทากันแดดสำคัญมาก
ฝ้าแดดจะกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้ไหม?
ฝ้าแดดเองไม่ใช่มะเร็ง แต่การที่ผิวเป็นฝ้าแดดแสดงว่าผิวโดนแดดทำร้าย ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง คนที่เป็นฝ้าแดดเลยต้องระวังและป้องกันผิวจากแสงแดดให้ดี ๆ เพื่อลดความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง
ครีมกันแดดสูตรไหน? ป้องกันฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
- ค่า SPF สูง (50+ ขึ้นไป) และเป็นสูตร Broad-Spectrum: เพื่อให้สามารถปกป้องผิวจากทั้งรังสี UVA และ UVB ได้อย่างครอบคลุม
- มีส่วนผสมของสารกันแดดแบบ Physical หรือ Mineral: เช่น Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide ซึ่งทำงานโดยการสะท้อนรังสี UV ทำให้ลดโอกาสการกระตุ้นการเกิดฝ้าได้ดีกว่าสารกันแดดแบบเคมี
- เป็นชนิดมีสี (Tinted): เนื่องจากสามารถช่วยป้องกันแสงสีฟ้า (Blue Light) ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้
ฝ้าแดด รักษาให้หายขาดได้จริงหรือ?
ฝ้าแดด (Melasma) ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดหรือถาวรในปัจจุบัน การรักษาสามารถช่วยให้รอยฝ้าจางลงหรือหายไปชั่วคราว แต่ฝ้ามีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสแสงแดดหรือมีปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ
ฝ้าแดดมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำอีกไหม?
ฝ้าแดดมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้สูง แม้จะรักษาจนจางหรือหายไปแล้ว เนื่องจากฝ้าเกิดจากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมน และแสงแดด หากยังมีปัจจัยกระตุ้นหรือไม่ได้ป้องกันผิวอย่างต่อเนื่อง ฝ้าสามารถกลับมาใหม่ได้
ผิวแบบไหน? เสี่ยงเป็นฝ้าแดดมากกว่าผิวประเภทอื่น
ฝ้าแดดพบได้บ่อยในผู้ที่มีผิวเข้มหรือผิวสีน้ำตาลอ่อนมากกว่าผิวขาว และพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
ผู้ชายเป็นฝ้าแดดได้ไหม?
ผู้ชายสามารถเป็นฝ้าแดดได้ แม้จะพบน้อยกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีผิวเข้มหรืออาศัยในพื้นที่ที่มีรังสี UV สูง ปัจจัยฮอร์โมน เช่น ระดับเทสโทสเตอโรนต่ำ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดฝ้าแดดในผู้ชาย
สรุป
ฝ้าแดดเป็นปัญหาผิวที่เกิดจากการสัมผัสแสง UV จากแดดและแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีทั้งฝ้าแดดตื้นและฝ้าแดดลึก การรักษามีหลายวิธี ทั้งการใช้ยาทา การทำเลเซอร์ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และการลอกผิว อย่างไรก็ตาม การพบหมอผิวหนังเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งที่ลลิษาคลินิกมีทีมหมอผิวหนังเฉพาะทางและเทคโนโลยีทันสมัยพร้อมดูแลปัญหาฝ้าแดดอย่างตรงจุดและปลอดภัย เพื่อคืนความกระจ่างใสให้ผิวหน้าและสร้างความมั่นใจยิ่งขึ้น
แหล่งอ้างอิงเกี่ยวกับข้อมูลสิวที่หลัง
healthline. Removing Sunspots on Face: Treatment and At-Home Remedies. Medically reviewed by Cynthia Cobb, DNP, APRN, WHNP-BC, FAANP. Written by Adrienne Santos-Longhurst. April 30, 2023
https://www.healthline.com/health/sunspots-on-face
บทความโดย
ลลิษาคลินิก : คลินิกรักษาสิว ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง (ตจวิทยา) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาผิว
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้า เป็นสิว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวหนังที่ลลิษาคลินิกได้ ฟรี!! ที่ตั้งคลินิก เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น 9 (ติดบันไดเลื่อน) และ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 4