คลินิกรักษาสิว โดยแพทย์โรคผิวหนังโดยเฉพาะ
สิวที่หลัง (Back Acne) สาเหตุเกิดจาก รักษาด้วยวิธีไหนดี ให้ไม่กลับมาเป็นอีก

สิวที่หลังไม่ใช่แค่ปัญหาผิวหนังธรรมดา แต่เป็นความกังวลที่ส่งผลต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวัน แม้จะเป็นปัญหาที่พบบ่อย แต่หลายคนยังรักษาสิวที่หลังไม่ถูกจุด ทำให้ปัญหาไม่หายขาดและกลับมาเป็นซ้ำ
บทความนี้หมอตาล จะพาคุณไปหาสาเหตุของสิวที่หลัง และแนะนำวิธีแก้ไขที่ตรงจุด เพื่อให้คุณกลับมามีผิวหลังที่เรียบเนียนและมั่นใจได้เหมือนเช่นเคย
รู้จัก! สิวที่หลัง คืออะไร

สิวที่หลัง หรือ Back Acne คือ การอักเสบของรูขุมขนบริเวณผิวหนังที่หลัง เกิดจากการอุดตันของไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ร่วมกับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย P. acnes ทำให้เกิดการอักเสบและกลายเป็นสิวในรูปแบบต่าง ๆ
tip
สิวที่หลังจะมีจุดดำ จุดขาว หรือตุ่มนูนแดง บางครั้งอาจจะมีความเจ็บปวดเมื่อโดนกระทบ ซึ่งในกรณีรุนแรงอาจมีหนองและเลือดออก
สิวที่หลัง เกิดจากสาเหตุอะไร
สิวที่หลังเกิดจากปัจจัยที่มาจากภายในร่างกาย และปัจจัยภายนอก หรือพฤติกรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนี้ค่ะ
ปัจจัยของการเกิดสิวที่หลังมาจากภายในร่างกาย
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: เช่น ฮอร์โมนแอนโดรเจนที่เพิ่มขึ้นในวัยรุ่น ฮอร์โมนระหว่างรอบเดือน หรือภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลจากโรคต่างๆ เป็นต้น
- พันธุกรรม: เช่น หากพ่อหรือแม่เคยเป็นสิวที่หลัง ลูกก็จะมีโอกาสเป็นสิวที่หลังด้วย เป็นต้น
- ความเครียด: ความเครียดทำให้ร่างกายกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอล จึงเพิ่มการผลิตน้ำมันบนผิวหนัง ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
ปัจจัยของการเกิดสิวที่หลังมาจากภายนอก หรือพฤติกรรมที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม: เช่น ครีมทาผิวที่มีส่วนผสมที่ทำให้อุดตันรูขุมขน เป็นต้น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต: เช่น การเล่นกีฬาแล้วไม่อาบน้ำทันที หรือการสวมเสื้อผ้าเปียกชื้นเป็นเวลานาน เป็นต้น
- อาหารที่รับประทาน: เช่น อาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง เป็นต้น
วิธีรักษาสิวที่หลัง มีวิธีอะไรบ้าง

การรักษาสิวที่หลังมีหลายวิธี จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสาเหตุของการเกิดสิว ดังนี้ค่ะ
รักษาสิวที่หลังด้วยการฉีดสิว
การฉีดยาเป็นวิธีการรักษาสิวที่หลังที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับสิวอักเสบขนาดใหญ่หรือสิวหัวช้าง โดยแพทย์จะฉีดยาสเตียรอยด์เข้าที่ตัวสิวโดยตรง ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบได้อย่างรวดเร็ว
การรักษาวิธีนี้เหมาะสำหรับสิวที่มีขนาดใหญ่ อักเสบรุนแรง หรือเจ็บปวด แต่ไม่ควรทำบ่อยเกินไปเพราะอาจส่งผลข้างเคียง เช่น ผิวอาจจะเกิดรอยบุ๋มได้ ดังนั้น แพทย์จึงพิจารณาเป็นรายกรณีไป
ข้อมูลเพิ่มเติม : ฉีดสิวคืออะไร กี่วันยุบ ฉีดบ่อยๆอันตรายไหม รวมข้อควรรู้ก่อนทำ
รักษาสิวที่หลังด้วยการรับประทานยารักษาสิว
การรักษาสิวที่หลังด้วยยารับประทานเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีสิวระดับปานกลางถึงรุนแรง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวจากความผิดปกติของฮอร์โมน แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง
รักษาสิวที่หลังด้วยการใช้เลเซอร์รักษาสิว
การรักษาสิวที่หลังด้วยเลเซอร์เป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาทั้งสิวและรอยสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการรักษาด้วยเลเซอร์อาจต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
รักษาสิวที่หลังด้วยการฉีดเมโสที่หลัง
การฉีดเมโสที่หลัง ที่มีส่วนผสมของวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นเข้าสู่ชั้นผิวหนังโดยตรง จะช่วยปรับสมดุลความมัน ลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรงและต้านทานต่อการเกิดสิวได้ดีขึ้น
ฉีดวิตามินผิว
การฉีดวิตามินผิวเป็นวิธีการรักษาที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิวจากภายในสู่ภายนอก สามารถทำควบคู่กับการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกสูตรที่เหมาะสมกับสภาพผิว
ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางเพื่อรักษาสิวที่หลัง

การปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวรุนแรง หรือรักษาด้วยตัวเองแล้วไม่ดีขึ้น โดยแพทย์จะวินิจฉัยสาเหตุของการเกิดสิว ประเมินความรุนแรง และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ยา การทำหัตถการ หรือการรักษาแบบผสมผสาน
เป็นสิวที่หลัง ใช้อะไรดี
หากคนไข้กำลังเป็นสิวที่หลังและคิดว่าใช้อะไรดี? แนะนำว่าควรใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของอนุพันธ์วิตามินเอ หรือที่รู้จักกันในชื่อ เรตินอยด์ (Retinoids) โดยตัวยาที่นิยมใช้ ได้แก่ Isotretinoin และ Adapalene ซึ่งออกฤทธิ์โดยตรงในการรักษาสิวที่หลัง ทั้งยังช่วยปรับสมดุลการทำงานของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ลดการอุดตันของรูขุมขน และกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดลอกออกไป ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และป้องกันการเกิดสิวซ้ำ ซึ่งส่วนผสมนี้อยู่ใน เช่น ยาทารักษาสิวฮอร์โมน เป็นต้น
ชนิดสิวที่เกิดขึ้นที่หลัง มีชนิดไหนบ้าง

สิวที่หลังมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละชนิดมีลักษณะและสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้
- สิวที่หลังแบบไม่มีหัว: สิวประเภทนี้เรียกว่า สิวตุ่มนูน หรือ Blind Pimples มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงที่ไม่มีหัว สิวมักเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนและอาจมีการอักเสบเกิดขึ้น โดยไม่ควรบีบหรือกดเพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงขึ้น
- สิวอุดตันที่หลัง: เกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวหนังตายและน้ำมันในรูขุมขน ทำให้เกิดตุ่มเล็ก ๆ ที่ไม่อักเสบ มักจะมีลักษณะเป็นสีขาวหรือสีดำ
- สิวหัวดำที่หลัง: เป็นประเภทของสิวอุดตันที่เปิดอยู่ ทำให้มีสีดำจากการออกซิเดชันของน้ำมันและเซลล์ผิวหนัง
- สิวตุ่มแดงที่หลัง: จะเกิดจากการอักเสบในรูขุมขน ทำให้เกิดตุ่มแดงที่เจ็บปวด มักเกี่ยวข้องกับแบคทีเรียและน้ำมันที่ผลิตมากเกินไปในผิวหนัง
- สิวหัวหนองที่หลัง: สิวที่มีหนองอยู่ภายใน มักจะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีขาวหรือเหลือง
- สิวอักเสบที่หลัง: เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขน ทำให้เกิดการบวม แดง และเจ็บปวด มักต้องใช้ยารักษาที่เหมาะสมเพื่อควบคุมการอักเสบ
- สิวหัวช้างที่หลัง: สิวที่มีขนาดใหญ่และมักจะเจ็บปวดมาก สามารถสร้างรอยแผลได้หากไม่รักษาอย่างถูกต้อง
- สิวเสี้ยนที่หลัง: สิวเสี้ยนเป็นประเภทของสิวอุดตันที่มีลักษณะเล็ก ๆ มักจะไม่ทำให้เกิดการอักเสบ
- สิวยีสต์ที่หลัง: เกิดจากการติดเชื้อยีสต์ มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายผื่น มักคันและระคายเคือง ต้องใช้ยาต้านเชื้อราในการรักษา
เมื่อคนไข้มีสิวที่หลัง ควรต้องดูแลผิวอย่างไร
การดูแลผิวที่มีสิวที่หลังเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการเกิดสิวซ้ำ หมอตาลมีคำแนะนำมาไว้ให้ โดยสามารถปฏิบัติตามได้ ดังนี้ค่ะ
- รักษาความสะอาด: อาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน และหลีกเลี่ยงการขัดถูผิวแรงเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง
- สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม: เลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย พร้อมกับหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
- การรักษาเฉพาะจุด: ทาครีมรักษาสิวเฉพาะจุดบริเวณที่เป็น หลี่กเลี่ยงการแกะหรือบีบสิวที่หลัง
หมอแชร์! วิธีการป้องกัน

การเกิดสิวที่หลังเป็นปัญหาที่หลายคนประสบ ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขอนามัยและพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดี หมอตาลจะพาคนไข้มาดูวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดสิวที่หลังกันได้ ดังนี้ค่ะ
- รักษาความสะอาด: อาบน้ำวันละ 2 ครั้งต่อวัน และอาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกาย โดยใช้สบู่อ่อน ๆ ที่มีส่วนผสมของสารต้านแบคทีเรีย หลังจากนั้นให้เช็ดตัวให้แห้งสนิทด้วยผ้าสะอาด
- เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว: ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำมันและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
- ควบคุมอาหาร: ลดการบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง เช่น ขนมและของทอด เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดสิว เป็นต้น
- ดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดโอกาสการเกิดสิว
- พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้เซลล์ผิวฟื้นฟูและลดความเครียดที่อาจกระตุ้นการเกิดสิว
- หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ระคายเคือง: สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่รัดแน่นและสามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อลดการเสียดสีและการสะสมของเหงื่อ
- ทำความสะอาดสิ่งของใกล้ตัว: ทำความสะอาดปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนเป็นประจำ เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดสิว
สิวที่หลังสามารถหายเองได้ไหม
สิวที่หลังสามารถหายเองได้ในบางกรณี แต่อาจใช้เวลานานและมีความเสี่ยงเกิดแผลเป็น ซึ่งการรักษาสิวที่หลังอย่างเหมาะสม จะช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นและลดโอกาสเกิดแผลเป็นได้อีกด้วย
รักษาสิวที่หลัง ด้วยตัวเองได้ไหม
การรักษาสิวที่หลังด้วยตัวเองสามารถทำได้ผ่านวิธีต่าง ๆ เช่น รักษาความสะอาด การใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว การดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากสิวเป็นมากหรือรักษาเองแล้วไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
ข้อพิจารณา เลือก รักษาสิวที่หลังที่ไหนดี ถึงจะปลอดภัย
- มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล
- มีแพทย์ผิวหนังที่มีใบประกอบวิชาชีพ
- ใช้เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน
- มีประวัติการรักษาที่น่าเชื่อถือ
ที่ลลิษาคลินิก มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ พร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีทันสมัยในการรักษาสิวที่หลังแบบครบวงจร โดยจะประเมินสภาพผิวและความรุนแรงของสิว เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยยา เลเซอร์ การฉีดสิว หรือการทำทรีตเมนต์ต่างๆ ลลิษาคลินิกพร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาสิวที่หลังสำหรับคุณ สามารถนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ทุกช่องทาง ดูรีวิวรักษาสิวจากคนไข้จริง ที่ลลิษาคลินิก รวมรีวิวรักษาสิว ที่ Laliza Clinic

คำถามที่ยอดนิยม
รอยดำ รอยสิวที่หลังรักษาได้ไหม
สามารถรักษาได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น เลเซอร์ ครีมลดรอยดำ หรือดริปวิตามินผิว เป็นต้น
หากเป็นสิวที่หลังแล้วสามารถใช้คอนซีลเลอร์กลบได้ไหม?
ไม่แนะนำ เพราะอาจอุดตันรูขุมขนและทำให้สิวแย่ลง
สิวที่หลังกดออกหรือบีบออกได้ไหม?
ไม่ควรบีบหรือกดสิว เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบและแผลเป็น
รักษาสิวที่หลังแบบไหนที่ไม่ได้ผล
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับประเภทสิว และไม่รักษาสิวที่หลังอย่างต่อเนื่อง
หากเป็นสิวที่หลังแล้ว มีโอกาสจะลามไปเป็นสิวที่หน้าอก และสิวที่หัวไหล่ ได้ไหม?
สามารถลามไปยังหน้าอกและไหล่ได้ โดยจะเกิดจากฮอร์โมน แบคทีเรีย การระคายเคืองจากเหงื่อ และใส่เสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศ
สรุป
การรักษาสิวที่หลังต้องอาศัยความเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพผิวที่ดี หากมีอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
แหล่งอ้างอิงเกี่ยวกับข้อมูลสิวที่หลัง
clevelandclinic. Back Acne (“Bacne”): Symptoms, Causes & Treatment
https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/22756-back-acne
medicalnewstoday. Medically reviewed by Bukky Aremu, APRN.Written Caitlin Geng and Stefano Iavarone. January 9, 2023 .Back acne: How to get rid of it and how to prevent it.
https://www.medicalnewstoday.com/articles/318548
Rena Goldman. March 8, 2019. How to Get Rid of Back Acne
https://www.healthline.com/health/how-to-get-rid-of-back-acne
บทความโดย
ลลิษาคลินิก : คลินิกรักษาสิว ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง (ตจวิทยา) ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาผิว
ใครที่กำลังเผชิญปัญหาผิวหน้า เป็นสิว ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านผิวหนังที่ลลิษาคลินิกได้ ฟรี!! ที่ตั้งคลินิก เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น 9 (ติดบันไดเลื่อน) และ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 4